กค 0706/3197
18 เมษายน 2549
ตามอนุสัญญาภาษีซ้อนไทยกัลป์สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน
69/34096
มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ได้ว่าจ้าง Dr. M. ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากประเทศ
สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน เพื่อมาทำหน้าที่เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย มีกำหนดระยะ
เวลาการจ้างตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2548 ถึงวันที่ 17 สิงหาคม 2549 การเข้ามาทำหน้าที่
ดังกล่าวของ Dr. M. เป็นไปตามเงื่อนไขและสอดคล้องกับข้อ 19 แห่งความตกลงระหว่าง
ราชอาณาจักรไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนในส่วนที่
เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้และจากทุนมหาวิทยาลัยฯ จึงขอความอนุเคราะห์ได้โปรด
พิจารณายกเว้นภาษีเงินได้สำหรับปีภาษี 2548 และ 2549 ของ Dr. M. ตามความตกลง
ดังกล่าวด้วย
บทบัญญัติข้อ 19 แห่งความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสหพันธ์สาธารณ-
รัฐเยอรมันเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนฯ ได้กำหนดให้การยกเว้นภาษีเงินได้แก่ ครู อาจารย์
ชาวเยอรมันที่เข้ามาในประเทศไทย เพื่อความมุ่งประสงค์เฉพาะในการทำการสอนใน
มหาวิทยาลัยฯ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ("solely for the purpose of teaching...") มิได้
รวมถึงหน้าที่อื่น ๆ อันนอกเหนือไปจากการสอน ที่ครู อาจารย์ผู้นั้นมีข้อผูกพันอยู่กับ
มหาวิทยาลัย ผู้ว่าจ้างด้วย จากข้อเท็จจริงปรากฏว่านอกจาก Dr. M. จะมีหน้าที่ในการสอน
หนังสือให้กับทางมหาวิทยาลัยฯ แล้ว ยังมีหน้าที่รับผิดชอบด้านจัดวางแนวทางหลักสูตร
การศึกษา การทำวิจัย รวมทั้งการจัดสัมมนา และการฝึกอบรมต่าง ๆ ตลอดจนการสนับสนุน
ให้คำปรึกษาแก่มหาวิทยาลัยในส่วนที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุไว้ในสัญญาจ้างและเอกสาร
แนบท้ายสัญญาด้วย ดังนั้น กรณีจึงไม่เข้าเงื่อนไขตามบทบัญญัติข้อ 19 แห่งความตกลง
ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน
ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้และจากทุน ที่จะพิจารณายกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สำหรับค่าตอบแทนในการสอนแก่บุคคลดังกล่าวได้