กค 0706/3395
26 เมษายน 2549
มาตรา 65 ทวิ (2) และมาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร
69/34129
บริษัทแห่งหนึ่ง ซื้อห้องชุดไว้โดยมิได้ใช้ในการประกอบกิจการ ดังนี้
1.ในปี 2540 ซื้อห้องชุดจำนวน 1 ห้องชุด มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานสาขา
ของบริษัทฯ ต่อมาประสบกับสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ บริษัทฯ ไม่สามารถขยายสาขาได้ จึงปิด
ห้องชุดไว้ ไม่ได้ใช้ในการประกอบกิจการใด
2.ในปี 2542 ซื้อห้องชุดจำนวน 1 ห้องชุด มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่
แห่งใหม่ แต่เนื่องจากประสบกับสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้บริษัทฯ ยกเลิกโครงการย้าย
สำนักงานใหญ่ไปอยู่ที่ห้องชุดดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2549 บริษัทฯ ได้นำห้องชุด
ดังกล่าวให้บุคคลอื่นเช่าเป็นระยะเวลา 3 ปี และซื้อห้องชุดจำนวน 1 ห้องชุด เพื่อใช้เป็นที่ตั้ง
สำนักงานสาขา แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย จึงไม่สามารถเปิดสาขาได้จนทุกวันนี้
บริษัทฯ ได้บันทึกบัญชีห้องชุดทั้งสองกรณีเป็นทรัพย์สิน และคำนวณหักค่าสึกหรอและ
ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินไม่เกินอัตราที่ประมวลรัษฎากรกำหนดตั้งแต่วันที่ซื้อมาถูกต้องหรือไม
ตามข้อเท็จจริง บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการซื้อห้องชุดเพื่อใช้ในการประกอบกิจการ
และบริษัทฯ ได้บันทึกบัญชีเป็นทรัพย์สิน เข้าลักษณะเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน
ต้องห้ามมิให้ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิตามมาตรา 65 ตรี(5) แห่งประมวลรัษฎากร
แต่ให้นำไปหักเป็นค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินตามมาตรา 65 ทวิ(2) แห่งประมวล
รัษฎากร ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราที่กำหนดตามพระราชกฤษฎีกา ออกตาม
ความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน (ฉบับที่ 145)
พ.ศ. 2527 โดยการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินนั้น บริษัทฯ จะต้องคำนวณหักตาม
ระยะเวลาที่ได้ทรัพย์สินนั้นมาในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี แม้ว่าบริษัทฯ จะไม่ได้ใช้ห้องชุดตาม
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว