views

ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการรับรู้เงินประกันล่วงหน้าเป็นรายได

วันที่: 25 เมษายน 2549
เลขที่หนังสือ

กค 0706/3350

วันที่

25 เมษายน 2549

ข้อกฎหมาย

มาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

69/34121

ข้อหารือ

      บริษัท อ. จำกัด ประกอบกิจการให้บริการ บริหารงานโรงกลั่นน้ำมัน ให้กับผู้รับ
สัมปทานประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันสองบริษัท คือ บริษัท A และบริษัท B โดยมี A และ
B เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในสัดส่วน 5050 แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจส่งผลกระทบกับ
การประกอบกิจการของ A และ B เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่อง ลดต้นทุนการผลิตต้นทุน
ขายและค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของ A และ B จึงได้มีการโอนพนักงานของ A และ B
มาเป็นพนักงานของบริษัทฯ (เรียกว่า การร่วมปฏิบัติการแบบพันธมิตร) บริษัทฯ จะได้รับ
ค่าตอบแทนในการบริหารงานซึ่งคำนวณจากยอดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารโรงกลั่น
น้ำมันให้กับ A และ B ทั้งหมดที่เกิดขึ้นบวกด้วยกำไรร้อยละ 5 ของค่าใช้จ่ายดังกล่าว บริษัทฯ
ได้ออกใบกำกับภาษีเรียกเก็บเงินค่าตอบแทนเป็นรายเดือนไปยัง A และ B ในสัดส่วนที่เท่ากัน
และนำค่าตอบแทนดังกล่าวมารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลก่อนปี 2545
B เกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินเนื่องจากการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ยืดเยื้อ
และไม่สำเร็จ คณะกรรมการของทั้งสามบริษัท จึงมีมติให้ A และ B วางเงินให้แก่บริษัทฯ เพื่อ
เป็นหลักประกันต่อภาระหน้าที่ของบริษัทฯ ในการจ่ายค่าจ้างและค่าชดเชยตามกฎหมายให้แก่
พนักงานของบริษัทฯ หากการร่วมปฏิบัติการแบบพันธมิตรต้องยกเลิกไปและบริษัทฯ จำเป็น
ต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วนหรือทั้งหมด โดยในปี 2545 บริษัทฯ ได้เรียกเก็บเงินประกัน
ดังกล่าวจาก A และ B ซึ่งคำนวณจากฐานเงินเดือนของพนักงานทั้งหมดประมาณเดือนละ
1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นเวลา 6 เดือน รวมเป็นเงิน 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 254,128,288
บาท บริษัทฯ ได้รับชำระเงินดังกล่าวเป็นเช็คเงินสดและฝากเข้าบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน
ของบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีสิทธินำเงินประกันไปใช้ในการประกอบกิจการหรือหักออก
เป็นค่าตอบแทนรายเดือนและมีภาระที่ต้องส่งคืนในอนาคต ต่อมาเดือนกันยายน 2546
คณะกรรมการของทั้งสามบริษัทได้เปลี่ยนแปลงวิธีคำนวณเงินประกันใหม่ โดยคำนวณจาก
เงินเดือนพนักงานล่วงหน้า 4 เดือนและโบนัส 1 เดือน รวมทั้งค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
กรณีเลิกจ้างพนักงาน 3 ใน 8 ของพนักงานทั้งหมดแต่รวมกันต้องไม่เกิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
และจะคำนวณเปรียบเทียบทุกเดือน หากเดือนใดเงินประกันในบัญชีน้อยกว่าที่คำนวณได้บริษัทฯ
จะเรียกเก็บในส่วนที่ขาดหากเดือนใดเงินประกันในบัญชีมากกว่าที่คำนวณได้บริษัทฯ จะคืนเงิน
ประกันในส่วนที่เกินให้การรับเงินหรือจ่ายคืนเงินประกันแต่ละครั้ง บริษัทฯ จะถูกหักหรือจะหัก
ภาษี ณ ที่จ่ายไว้ในอัตราร้อยละ 3.0 และเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2547 บริษัทฯ ได้โอนเงินประกัน
จากบัญชีเงินฝากกระแสรายวันไปไว้ในบัญชีออมทรัพย์ของบริษัทฯ เพื่อให้เกิดดอกเบี้ยเป็น
รายได้ให้แก่ A และ B หลังจากนั้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2548 คณะกรรมการของทั้งสาม
บริษัทได้ร่วมกันพิจารณาและมีมติว่า A และ B ไม่มีความจำเป็นจะต้องวางเงินประกันอีกต่อไป
และให้บริษัทฯ คืนเงินประกันพร้อมทั้งดอกเบี้ยทั้งหมดให้แก่ A และ B โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการ
คืนเงินประกันฝ่ายละเท่าๆ กันไปแล้วเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2548 ส่วน ดอกเบี้ยของเงินประกัน
ดังกล่าวได้คืนให้เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2549 บริษัทฯ มีความเห็นว่า เงินประกันดังกล่าวไม่เข้า
ลักษณะเป็นเงินก้อนที่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

แนววินิจฉัย

      1.กรณีบริษัทฯ ประกอบกิจการให้บริการบริหารงานโรงกลั่นน้ำมัน โดยได้รับค่าตอบแทน
เป็นรายเดือน บริษัทฯ ต้องนำรายได้จากการให้บริการดังกล่าวที่ได้เรียกเก็บหรือพึงเรียกเก็บ
เป็นรายเดือนมารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามเกณฑ์สิทธิ ตามมาตรา
65 แห่งประมวลรัษฎากร
      2.กรณีบริษัทฯ ได้เรียกเก็บเงินประกันจากผู้รับบริการ เพื่อเป็นหลักประกันต่อภาระ
หน้าที่ของบริษัทฯ ในการจ่ายค่าจ้างและค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานให้แก่พนักงานของ
บริษัทฯ ที่ได้รับโอนมาจากผู้รับบริการตามข้อเท็จจริงข้างต้น หากการร่วมปฏิบัติการแบบ
พันธมิตรต้องยกเลิกไปและบริษัทฯ จำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วนหรือทั้งหมดและจำเป็น
ต้องจ่ายค่าจ้างหรือเงินชดเชยการจ้างตามกฎหมายแรงงาน เงินประกันดังกล่าวที่บริษัทฯ เรียก
เก็บคำนวณจากฐานเงินเดือน โบนัส และค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานกรณีเลิกจ้างพนักงาน
โดยบริษัทฯ ไม่มีสิทธินำเงินประกันหรือดอกเบี้ยของเงินประกันดังกล่าวไปใช้ในการประกอบ
กิจการใดๆ ของบริษัทฯ หรือหักออกเป็นค่าบริการรายเดือนที่บริษัทฯ จะต้องได้รับจากผู้รับ
บริการ และเมื่อเหตุแห่งการวางเงินประกันดังกล่าวไม่เกิดขึ้น บริษัทฯ จำเป็นต้องคืนเงินประกัน
และดอกเบี้ยทั้งหมดให้กับผู้รับบริการ ดังนั้น เงินประกันที่เรียกเก็บเพื่อเป็นประกันการเลิกจ้าง
พนักงานดังกล่าว ไม่ถือเป็นรายได้ของบริษัทฯ ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้
นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากรแต่อย่างใด