views

ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณียกเลิกการสละสิทธิดอกเบี้ยจากการขอคืนภาษี

วันที่: 11 เมษายน 2549
เลขที่หนังสือ

กค 0706/3026

วันที่

11 เมษายน 2549

ข้อกฎหมาย

มาตรา 4 ทศ แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

69/34073

ข้อหารือ

      บริษัท ค. (มหาชน) เป็นบริษัทฯ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบธุรกิจ
ค้าอสังหาริมทรัพย์ และให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2540 บริษัทฯได้ประสบผลขาดทุนจากการ
เปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นจำนวนเงิน 2,313.7 ล้านบาท ทำให้ในปี
2541-2545 บริษัทฯ สามารถใช้ผลขาดทุนสะสมยกมาไม่เกินห้าปีก่อนรอบระยะเวลาบัญชีปีนั้น ๆ ตาม
มาตรา 65 ตรี (12) แห่งประมวลรัษฎากร ทำให้บริษัทฯ ไม่มีภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องชำระ
ให้แก่กรมสรรพากร ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากร (แบบ ค.10) สำหรับภาษี
เงินได้นิติบุคคลถูกหัก ณ ที่จ่าย ในระหว่างการตรวจสอบเอกสารเพื่อขอคืนภาษีนั้น บริษัทฯ ได้จัดทำ
หนังสือลงวันที่ 15มีนาคม 2547 ขอสละสิทธิดอกเบี้ยในการขอคืนเงินภาษีอากร (แบบ ค.10) สำหรับ
รอบระยะเวลาบัญชีปี2541-2545 แต่ภายหลังจากที่กรมสรรพากรได้ตรวจเอกสารทั้งหมดและสรุป
ประเด็นต่าง ๆ ในการขอคืนภาษีสำหรับปี 2541-2545 แล้ว บริษัทฯ ถูกกรมสรรพากรประเมินภาษี
มูลค่าเพิ่มและภาษีธุรกิจเฉพาะ รวมทั้งเบี้ยปรับเงินเพิ่มสำหรับปี 2541-2547 เป็นจำนวนเงิน
179,945,268.65 บาท ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดทำคำร้องของดเงินเพิ่มและเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษี
ธุรกิจเฉพาะ คงเหลือต้องชำระภาษีรวมทั้งเบี้ยปรับเงินเพิ่มเป็นจำนวนเงินรวม 137,020,200.50 บาท
ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้จัดทำหนังสือ แจ้งยกเลิกการสละสิทธิดอกเบี้ยรับในการยื่นขอคืนภาษีอากร
(แบบ ค.10) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2541-2545 ซึ่งกรมสรรพากรได้ออกเลขที่รับลงวันที่ 4
สิงหาคม 2548 ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอทราบว่า บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอคืนเงินภาษีอากร (แบบ ค.10)
และเอกสารที่เกี่ยวข้องสำหรับปี 2541-2545 กรณีถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 3 เตรส และมาตรา
69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ภายใน 3 ปีนับแต่วันสุดท้ายแห่งปีซึ่งถูกหักภาษีเกินไป เนื่องจาก
บริษัทฯ มีผลขาดทุนสะสมยกมาไม่เกินห้าปีก่อนรอบระยะเวลาบัญชีปีนั้นๆ ตามมาตรา 65 ตรี (12)
แห่งประมวลรัษฎากร ทำให้บริษัทฯ ไม่มีภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลและไม่สามารถนำภาษีเงินได้
นิติบุคคลถูกหัก ณ ที่จ่ายไปหักจากภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังนั้น ถือได้ว่า บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องและ
เอกสารที่เกี่ยวข้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว การที่บริษัทฯ ได้ทำ
หนังสือแจ้งสละสิทธิดอกเบี้ยรับที่เกิดจากการขอคืนเงินภาษี และต่อมาบริษัทฯ ได้ทำหนังสือ
ขึ้นอีกฉบับหนึ่ง เพื่อแจ้งยกเลิกหนังสือแจ้งสละสิทธิดอกเบี้ยรับที่เกิดจากการขอคืนเงินภาษี
ฉบับก่อนหน้านี้จะทำให้บริษัทฯ มีสิทธิได้รับชำระดอกเบี้ยรับจากการขอคืนภาษี ใช่หรือไม่

แนววินิจฉัย

      กรณีบริษัทฯ ขอคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2541-2545 ภายใน
กำหนดเวลาที่กฎหมายกำหนดและบริษัทฯ ได้ทำหนังสือสละสิทธิดอกเบี้ยจากเงินภาษีอากรที่
ได้รับคืน ถือเป็นการแสดงเจตนาโดยชอบด้วยกฎหมาย ย่อมมีผลผูกพันบริษัทฯ ตามมาตรา 149
แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต่อมาภายหลัง บริษัทฯ ประสงค์จะขอรับดอกเบี้ยจาก
เงินภาษีอากรที่ได้รับคืนดังกล่าว บริษัทฯ มีสิทธิที่จะกระทำได้ แต่ต้องดำเนินการภายในกำหนด
เวลาที่มีสิทธิขอคืนภาษี จึงจะมีสิทธิได้รับดอกเบี้ย ตามมาตรา 4 ทศ แห่งประมวลรัษฎากร
ประกอบกับข้อ 2 ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 161 (พ.ศ. 2526) ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ได้รับคืนเงินภาษีอากร ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2526 ดังนั้น กรณีบริษัทฯ
ทำหนังสือแจ้งยกเลิกหนังสือแจ้งสละสิทธิดอกเบี้ย เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2548 เป็นการแจ้งยกเลิก
หนังสือดังกล่าวเกินกำหนดระยะเวลาขอคืนภาษี บริษัทฯ จึงไม่มีสิทธิได้รับดอกเบี้ยจากเงินภาษี
เงินได้นิติบุคคลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี 2541-2545 ที่ได้รับคืนแต่ประการใด