กค 0706/2691
10 เมษายน 2549
มาตรา 65 และมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร
69/34069
บริษัท ส. ได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ให้จัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้แก่ผู้ซื้อผู้ขาย
ในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกันความเสี่ยงและสร้างความเชื่อมั่น
ให้แก่คู่สัญญาซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าซึ่งเป็นสมาชิกของบริษัทฯ และในการทำหน้าที่ของ
บริษัทฯ ตามพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ได้กำหนดให้บริษัทฯ เข้าผูกพัน
หรือแทนที่เป็นคู่สัญญาในการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับสมาชิกของบริษัทฯ พร้อมกับเรียก
ให้สมาชิกวางทรัพย์สินเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญา (Margin) และทรัพย์สินเพื่อความมั่นคง
ของระบบการซื้อขายและการชำระหนี้ บริษัทฯ จึงขอทราบว่า
1.กรณีมีการเรียกเก็บทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงของระบบการซื้อขายและการชำระหนี้ ซึ่ง
ประกอบด้วยหลักทรัพย์เพื่อความมั่นคง (Security Deposit) และกองทุนทดแทนความเสียหายใน
ระบบการชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Clearing Fund) จากสมาชิกของบริษัทฯ โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อรองรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากระบบการซื้อขายและการชำระหนี้ตาม
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามข้อกำหนดของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ จะนำทรัพย์สินเพื่อความมั่นคง
ดังกล่าวมาบังคับชำระหนี้ต่อเมื่อสมาชิกกระทำผิดสัญญาและทรัพย์สินซึ่งเป็นหลักประกันการ
ปฏิบัติตามสัญญา (Margin) มีจำนวนไม่เพียงพอต่อการบังคับชำระหนี้ ทั้งนี้ ในการบันทึกบัญชี
รายการทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงดังกล่าว บริษัทฯ จะใช้วิธีการบันทึกบัญชีเช่นเดียวกับวิธีการ
บันทึกบัญชีทรัพย์สินเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญา (Margin) โดยบริษัทฯ มิได้บันทึกบัญชี
ทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงดังกล่าวไว้เป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ แต่จะบันทึกไว้เป็นเจ้าหนี้ของ
บริษัทฯ และจะคืนทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงดังกล่าวให้แก่สมาชิกเมื่อสมาชิกพ้นสมาชิกภาพ
แล้วเท่านั้น บริษัทฯ จึงขอทราบว่า การเรียกเก็บทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงดังกล่าว ไม่ถือเป็น
เงินได้ของบริษัทฯ บริษัทฯ จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่นเดียวกับกรณีการเรียกเก็บ
ทรัพย์สินเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญาของคู่สัญญา (Margin) ใช่หรือไม่
2.กรณีดอกผลที่เกิดขึ้นจากการบริหารทรัพย์สินเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญาของ
คู่สัญญา (Margin) และทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงของระบบการซื้อขายและการชำระหนี้
2.1 เนื่องจากตามข้อกำหนดของบริษัทฯ ได้กำหนดให้บริษัทฯ มีสิทธิในการบริหาร
จัดการทรัพย์สินที่สมาชิกนำมาวางไว้เพื่อเป็นหลักประกันในระบบการซื้อขายและการชำระ
หนี้ดังกล่าวแก่บริษัทฯ โดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อบริษัทฯ บริหารจัดการทรัพย์สินดังกล่าวและเกิด
ดอกผลขึ้น บริษัทฯ จะคืนดอกผลดังกล่าวให้แก่สมาชิกตามระยะเวลาที่กำหนด บริษัทฯ จะ
บันทึกบัญชีดอกผลที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้สมาชิกลงบัญชีรับรู้เป็นรายได้
ของสมาชิกเช่นกัน บริษัทฯ จึงขอทราบว่า ดอกผลที่เกิดขึ้นดังกล่าว ไม่ถือเป็นเงินได้ของบริษัทฯ
เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับไว้แทนสมาชิกเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวล
รัษฎากร เมื่อบริษัทฯ จ่ายดอกผลดังกล่าวให้แก่สมาชิก บริษัทฯ ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
แต่ประการใด
2.2 ในการบริหารจัดการทรัพย์สินดังกล่าวของสมาชิก บริษัทฯ จะเรียกเก็บเงิน
ค่าบริหารจัดการทรัพย์สินจากสมาชิกด้วยจำนวนหนึ่ง (Management Fee) บริษัทฯ จึงขอทราบว่า
บริษัทฯ มีหน้าที่จะต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับเงินค่าบริหารจัดการทรัพย์สินที่บริษัทฯ เรียกเก็บ
จากสมาชิก และหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการให้บริการดังกล่าวด้วย
1. กรณีบริษัทฯ ได้เรียกเก็บทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงของระบบการซื้อขายและการชำระหนี้
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากระบบซื้อขายและการชำระหนี้ตาม
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า บริษัทฯ ได้บันทึกรายการทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทฯ
และบริษัทฯ จะคืนทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงให้แก่สมาชิกเมื่อพ้นจากสมาชิกภาพแล้ว การเรียก
เก็บทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงดังกล่าวไม่ถือเป็นรายได้ของบริษัทฯ ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อ
เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และมิใช่เป็นรายรับที่บริษัทฯ ได้รับหรือพึงได้รับจากการขายสินค้าหรือ
การให้บริการ จึงไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
2.กรณีดอกผลที่เกิดขึ้นจากการบริหารทรัพย์สินเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญาของ
คู่สัญญา (Margin) และทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงของระบบการซื้อขายและการชำระหนี้ บริษัทฯ
จะต้องนำดอกผลที่เกิดขึ้นจากการบริหารทรัพย์สินทั้ง 2 กรณีมารวมคำนวณเป็นรายได้ของ
บริษัทฯ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและเมื่อบริษัทฯ จ่ายคืนให้แก่สมาชิก บริษัทฯ สามารถนำมา
ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ตามมาตรา 65 แห่งประมวล
รัษฎากร ต่อมาเมื่อบริษัทฯ จ่ายดอกผลดังกล่าวคืนให้แก่สมาชิก เข้าลักษณะเป็นเป็นการจ่ายเงินได้
พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ ไม่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ตาม
ประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด
3.กรณีบริษัทฯ จะเรียกเก็บค่าบริหารจัดการทรัพย์สินจากสมาชิก (Management Fee) ตาม
ข้อเท็จจริง บริษัทฯ จะต้องนำค่าบริหารจัดการทรัพย์สินที่เรียกเก็บจากสมาชิกมารวมคำนวณกำไร
สุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร และเข้าลักษณะเป็นรายรับ
จากการให้บริการตามมาตรา 77/2(1) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จะต้องนำค่าบริหารจัดการ
ทรัพย์สินดังกล่าวมารวมคำนวณเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร
