views

ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการจัดตั้ง สำนักงานตัวแทนในต่างประเทศ

วันที่: 11 เมษายน 2549
เลขที่หนังสือ

กค 0706/3027

วันที่

11 เมษายน 2549

ข้อกฎหมาย

มาตรา 40(1)(2) มาตรา 41 มาตรา 50(1) มาตรา 83/6(2ป มาตรา 77/1(20) มาตรา 85/17 มาตรา 65 ตรี (13)(14) มาตรา 65 และมาตรา 65 ทวิ (5)

เลขตู้

69/34074

ข้อหารือ

      บริษัท ก. ประกอบกิจการขายเครื่องจักร อะไหล่เครื่องจักร และให้บริการซ่อมเครื่องจักร
ต่อมา เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2548 บริษัทฯ ได้ขออนุญาตจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในกรุงโฮจิมินต์ซิตี้
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อดำเนินกิจกรรมการตลาด การค้นคว้าและส่งเสริมการตลาด
การกำหนดโครงการความร่วมมือในการลงทุนของบริษัทฯ ในเวียดนาม โดยสำนักงานตัวแทน ไม่ได้
รับอนุญาตให้ดำเนินการธุรกิจบริการชนิดอื่นใด หรือกิจการที่ได้รับผลกำไรโดยตรงอื่นในเวียดนาม
บริษัทฯ ได้โอนเงินจำนวนหนึ่งให้สำนักงานตัวแทนในกรุงโฮจิมินต์ซิตี้ เป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ
เช่น เงินเดือนพนักงาน ค่าสวัสดิการพนักงาน ค่าจอดรถ ค่าประกันสังคมและค่าประกันสุขภาพ
ค่าน้ำมันรถยนต์ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรสาร ค่าโทรศัพท์มือถือ ค่าเช่าสำนักงาน
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ค่าบริการตกแต่งสำนักงาน ค่าซื้อเครื่องใช้สำนักงาน และค่าซื้อยานพาหนะ
      บริษัทฯ จึงขอทราบว่า
      1.กรณีบริษัทฯ โอนเงินให้สำนักงานตัวแทนของบริษัทฯ ในต่างประเทศ เป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ
ข้างต้น
      1.1 บริษัทฯ ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย นำส่งในประเทศไทย หรือไม่ ถ้าต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
ต้องหักรายการใด ในอัตราเท่าใด และ
      1.2 บริษัทฯ ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 83/6 แห่งประมวลรัษฎากรหรือไม่
      2.สำนักงานตัวแทนในต่างประเทศ ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นสาขาของบริษัทฯ
ในประเทศไทยหรือไม่ และต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 สำหรับสำนักงานตัวแทน หรือไม่
      3.บริษัทฯ มีสิทธินำรายจ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่สำนักงานตัวแทนในต่างประเทศมาลงเป็น
รายจ่ายของบริษัทฯ ในประเทศไทย ในการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ได้หรือไม่
      4.กรณีบริษัทฯ นำงบทดลองเมื่อสิ้นงวดบัญชีของสำนักงานตัวแทนในต่างประเทศ ซึ่งมีราคา
เป็นเงินตราต่างประเทศ มาคำนวณค่าเป็นเงินตราไทย ตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นรอบระยะเวลา
บัญชี บริษัทฯ มีสิทธินำรายการในงบทดลองที่แปลงค่าเป็นเงินตราไทยแล้ว มารวมกับงบทดลอง
ของบริษัทฯ เพื่อจัดทำงบการเงินรวมของบริษัทฯ จะต้องปรับปรุงกำไรหรือขาดทุนจากอัตรา
แลกเปลี่ยนตามมาตรา 65 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร อีกหรือไม่

แนววินิจฉัย

     1. กรณีบริษัทฯ โอนเงินไปให้สำนักงานตัวแทนของบริษัทฯ ในต่างประเทศ เป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่าย
ต่างๆ ในการดำเนินกิจการ แยกพิจารณาได้ดังนี้
      1.1 ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย บริษัทฯ ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย แต่อย่างใด เนื่องจาก
สำนักงานตัวแทนในต่างประเทศ เป็นนิติบุคคลเดียวกันกับสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย สำหรับ
รายการที่เป็นรายจ่ายค่าเงินเดือน ค่าสวัสดิการ ค่าประกันสังคม และค่าประกันสุขภาพของพนักงาน
ในประเทศเวียดนาม นั้น เนื่องจากตามข้อเท็จจริงเป็นกรณีที่บริษัทฯ ในประเทศไทย มิได้เป็นผู้จ่าย
เงินได้ตามมาตรา 40(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่พนักงานหรือลูกจ้างที่ปฏิบัติงานใน
ต่างประเทศ แต่สำนักงานตัวแทนเป็นผู้จ่ายเงินได้ให้แก่พนักงานหรือลูกจ้างโดยตรง ไม่เข้าลักษณะ
เป็นเงินได้ เนื่องจากกิจการของนายจ้างในประเทศไทย ไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ตามมาตรา 41 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา
50(1) แห่งประมวลรัษฎากร อย่างไรก็ดี ผู้มีเงินได้ซึ่งเป็นพนักงานหรือลูกจ้างที่ปฏิบัติอยู่ในต่างประเทศ
อาจมีหน้าที่จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากนำเงินได้พึงประเมินนั้นเข้ามาในประเทศไทย
และเป็นผู้อยู่ในประเทศไทยชั่วระยะเวลาหนึ่งหรือหลายระยะเวลาทั้งหมดถึงหนึ่งร้อยแปดสิบวันใน
ปีภาษีนั้น ทั้งนี้ ตามมาตรา 41 วรรคสอง และวรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร
      1.2 ภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ ไม่มีหน้าที่นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการโอนเงินให้สำนักงาน
ตัวแทน ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ เป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินกิจการของบริษัทฯ เนื่องจากมิใช่
เป็นการชำระค่าบริการแก่ผู้ให้บริการในต่างประเทศ และได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร
ตามมาตรา 83/6(2) แห่งประมวลรัษฎากร
      2.กรณีที่บริษัทฯ จัดตั้งสำนักงานตัวแทนของบริษัทฯ ในต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นสถานที่ดำเนิน
กิจกรรมการตลาด การค้นคว้าและส่งเสริมการตลาด การกำหนดโครงการความร่วมมือในการลงทุน
ของบริษัทฯ ในเวียดนาม โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจบริการชนิดอื่นใดหรือกิจการที่ได้รับผล
กำไรโดยตรงอื่นในประเทศเวียดนาม ไม่เข้าลักษณะเป็นสถานประกอบการ จึงไม่ต้องแจ้งการ
เปลี่ยนแปลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ ตามมาตรา 77/1(20) แห่งประมวลรัษฎากรและมาตรา 85/7
แห่งประมวลรัษฎากร
      3.กรณีค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่สำนักงานตัวแทน ในประเทศเวียดนาม หากเป็นรายจ่ายเพื่อหา
กำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ และเป็นรายจ่ายเพื่อกิจการในประเทศไทยโดยเฉพาะ บริษัทฯ มีสิทธิ
ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13)
และมาตรา 65 ตรี (14) แห่งประมวลรัษฎากร และเอกสารหลักฐานของค่าใช้จ่ายดังกล่าว จะต้องเป็น
หลักฐานที่ชัดแจ้งสามารถตรวจสอบได้ว่า เป็นรายจ่ายที่แท้จริงของกิจการ โดยมีหลักฐานหรือหนังสือ
รับรองโดยเจ้าหน้าที่ของต่างประเทศที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องหรือโดยบุคคลอื่นที่อธิบดีกรมสรรพากรเชื่อถือ
ได้และหลักฐานหรือหนังสือดังกล่าว นั้น จะต้องมีรายละเอียดเพียงพอที่แสดงให้เห็นว่า เป็นรายจ่าย
ที่จำเป็นและสมควรแก่การดำเนินธุรกิจ
      4.กรณีบริษัทฯ นำงบทดลองของสำนักงานตัวแทนในต่างประเทศ ซึ่งมีค่าหรือราคาเป็นเงินตรา
ต่างประเทศ มาคำนวณค่าหรือราคาเป็นเงินตราไทย นั้น บริษัทฯ จะต้องคำนวณค่าหรือราคาทรัพย์สิน
หรือหนี้สินที่มีค่าหรือราคาเป็นเงินตราต่างประเทศที่เหลืออยู่ในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
เป็นเงินตราไทย ตามอัตราถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์รับซื้อหรือขาย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้
คำนวณไว้ ทั้งนี้ ตามมาตรา 65 ทวิ (5) วรรคหนึ่ง (ก) แห่งประมวลรัษฎากร และหากเกิดผลกำไรหรือ
ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทฯ มีสิทธินำมารวมคำนวณเป็นรายได้หรือรายจ่ายในการคำนวณ
กำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร