กค 0706/4681
14 พฤษภาคม 2547
มาตรา 65 ทวิ (13), มาตรา 89(3)(4)(5), มาตรา 89/1, มาตรา 90/2(3), มาตรา 82/3
67/32948
สมาคมฯ ได้จัดตั้งขึ้นโดยมีบทบาทหลักของสมาคมฯ คือส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจของบริษัท
ประกันวินาศภัยที่เป็นสมาชิก เช่น ให้การสนับสนุนด้านวิชาการและข้อมูลข่าวสารแก่สมาชิก
ประชาสัมพันธ์สนับสนุนและส่งเสริมสมาชิกในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด จัดสัมมนาทางวิชาการ
เป็นต้น สมาคมฯ มีรายได้จากค่าบำรุงสมาคมที่เรียกเก็บจากสมาชิกสมาคมฯ จึงหารือว่า
1. สมาคมฯ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากรายได้ค่าบำรุงสมาคมฯ หรือไม่
2. สมาคมฯ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และเข้าใจโดยสุจริตว่าค่าบำรุง
สมาคมได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ต่อมาเมื่อได้รับแจ้งว่ามีภาระต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตั้งแต่ปี 2545
สมาคมฯ ได้รีบดำเนินการแจ้งให้สมาชิกทราบเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องในทันที และจะรีบดำเนินการเสีย
ภาษีเพิ่มเติมโดยเร็วต่อไป ดังนั้น จึงขอให้พิจารณาอนุโลมให้สมาชิกของสมาคมฯ สามารถเครดิตภาษี
ของปี 2545 ย้อนหลังได้โดยไม่ต้องทำการยื่นขอคืนภาษี
1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล
เงินค่าบำรุงที่สมาคมฯ ได้รับจากสมาชิกดังกล่าว เป็นรายได้ของสมาคมฯ ที่ได้รับยกเว้น
ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 ทวิ (13) แห่ง
ประมวลรัษฎากร
2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม
สมาคมฯ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้เรียกเก็บค่าบำรุงสมาคมจาก
สมาชิก โดยสมาคมฯ จะดำเนินการในด้านต่าง ๆ ให้แก่สมาชิกเป็นการตอบแทน ค่าบำรุงสมาคม
ดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นค่าตอบแทนอันเกิดจากการให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ สมาคมฯ มีหน้าที่
ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 82(1) แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อสมาคมฯ มิได้ออกใบกำกับภาษีใน
ทันทีที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น เป็นผลให้สมาคมฯ ไม่ได้นำภาษีขายจากค่าบริการ
ดังกล่าวไปรวมคำนวณเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในแต่ละเดือนภาษี สมาคมฯ จึงต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม
และต้องระวางโทษทางอาญาตามมาตรา 89(3) (4) (5) มาตรา 89/1 และมาตรา 90/2(3) แห่ง
ประมวลรัษฎากร
กรณีสมาคมฯ เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากบริษัทสมาชิกภายหลังจากที่ความรับผิดในการ
เสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นแล้ว สมาคมฯ ต้องออกใบกำกับภาษีในวันที่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น และ
บริษัทสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีสิทธินำภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบกำกับภาษีดังกล่าว
ไปถือเป็นภาษีซื้อหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนภาษีนั้นได้ ตามมาตรา 82/3
วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร
