กค 0702/3370
14 พฤษภาคม 2553
มาตรา 82/3 มาตรา 83/6(2) มาตรา 70 และมาตรา 40(3) แห่งประมวลรัษฎากร
73/37287
บริษัทฯ ประกอบธุรกิจนำเข้าโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากประเทศสิงคโปร์ เพื่อจำหน่ายให้ลูกค้าในประเทศ โดยโปรแกรม คอมพิวเตอร์ 1 ชุดราคา 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะประกอบด้วย โปรแกรมคอมพิวเตอร์ 1 กล่อง ราคา 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ และ สิทธิในการอับเกรดโปรแกรมทางอีเมลล์ อายุ 1 ปี ราคา 500 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อบริษัทฯ ขายโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ 1 ชุด บริษัทฯ จะได้รับส่วนลดจากบริษัทในประเทศสิงคโปร์ ร้อยละ 5 ของราคาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ส่วนลดดังกล่าว บริษัทฯ มีสิทธิ นำไปใช้ในการสั่งสินค้าครั้งต่อไป บริษัทฯ คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มเฉพาะในส่วนของสิทธิในการอับเกรดโปรแกรม เนื่องจากบริษัทฯ เห็นว่า ค่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น บริษัทฯ ได้จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านทางกรมศุลกากรแล้วหากบริษัทฯ คำนวณ ภ.พ. 36 ด้วย ราคา 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ อีก บริษัทฯ จะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มซ้ำซ้อน บริษัทฯ จึงหารือว่า ความเห็นของบริษัทฯ ถูกต้องหรือไม่
กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล เมื่อบริษัทฯ ชำระเงินค่าใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้บริษัทในประเทศสิงคโปร์ ค่าตอบแทนดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นค่าแห่งลิขสิทธิ์อันเป็นเงินได้ ตามมาตรา 40(3) แห่งประมวลรัษฎากร และเข้าลักษณะเป็นค่าสิทธิ ตาม ข้อ 12 แห่งอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงการรัษฎากร ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ เมื่อบริษัทฯ ชำระเงินค่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้บริษัทในประเทศสิงคโปร์ บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีจากเงินได้ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 15 ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร และตามอนุสัญญาดังกล่าว
กรณีภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อบริษัทฯ ชำระเงินค่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้แก่บริษัทในประเทศสิงคโปร์ กรณีดังกล่าว ถือเป็นการจ่ายค่าบริการให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งให้บริการในต่างประเทศและได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร บริษัทฯ มี หน้าที่ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 83/6(2) แห่งประมวลรัษฎากร โดยฐานภาษี ได้แก่ มูลค่าทั้งหมดที่ผู้ประกอบการได้รับ หรือพึงได้รับจากการให้บริการ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสิทธินำภาษีซื้อที่บริษัทฯ ได้เสียไปแล้ว มาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษี มูลค่าเพิ่มได้ตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร