กค 0706/4326
4 พฤษภาคม 2547
มาตรา 65
67/32919
1. บริษัท บ. ประกอบกิจการประเภทธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
2. บริษัท ซ. ประกอบกิจการประเภทธุรกิจสนามกอล์ฟ อาหาร เครื่องดื่ม และที่พัก
3. บริษัท บ. ได้ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2543 ให้บริษัท
ซ. เช่าที่ดินประมาณ 400 ไร่ โดยคิดค่าเช่าปีละ 6,000,000 บาท ทำสัญญาปีต่อปี ปัจจุบันยังมิได้มี
การจ่ายค่าเช่า
4. เนื่องจากบริษัท ซ. ประสบปัญหาขาดทุนจากการประกอบกิจการและเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่
ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2543 จนทำให้น้ำท่วมสนามกอล์ฟ เสียหายมากจนต้องปิดปรับปรุงสนาม และ
ต้องใช้เงินในการปรับปรุงสนามเป็นจำนวนมากกว่า 10 ล้านบาท ทำให้ขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถ
ชำระค่าเช่าที่ดินได้ จึงได้มีหนังสือลงวันที่ 14 ธันวาคม 2543 ของดค่าเช่าที่ดินเป็นเวลา 4 ปีนับจากปี
2544 ถึงปี 2548
5. บริษัท บ. ได้มีมติงดค่าเช่าที่ดินให้บริษัท ซ. ตามรายงานประชุมคณะกรรมการและได้มี
หนังสือถึงบริษัท ซ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2543 แจ้งผลการงดค่าเช่าที่ดินตามหนังสือของดค่าเช่า
ดังกล่าว
6. บริษัท บ. จึงได้งดค่าเช่าที่ดินตั้งแต่ ปี พ.ศ.2544 ถึงปี พ.ศ.2548 ให้แก่บริษัท ซ.
และมิได้นำมาบันทึกเป็นรายได้ของบริษัทฯ
กรณีบริษัท บ. และบริษัท ซ. ทั้ง 2 บริษัทมีกรรมการชุดเดียวกันคนใดคนหนึ่งมีอำนาจ
ลงลายมือชื่อพร้อมประทับตราสำคัญของบริษัทจึงจะมีผลผูกพันบริษัทที่เหมือนกันก็ตาม แต่บริษัททั้ง 2 เป็น
นิติบุคคลแยกต่างหากจากกัน และมุ่งประสงค์ผลกำไรในการประกอบธุรกิจของตน สัญญาเช่าที่ดินระหว่าง
บริษัท บ. กับบริษัท ซ. เป็นสัญญาต่างตอบแทน ซึ่งผู้ให้เช่ามีหน้าที่จำต้องส่งมอบทรัพย์สินซึ่งให้เช่านั้น
และผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ถ้าผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่าตามมาตรา 537 มาตรา 546 และมาตรา
560 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้น ค่าเช่าที่บริษัท บ. ได้รับตามสัญญาเช่าดังกล่าวเกิดขึ้น
ในรอบระยะเวลาบัญชีใด แม้ว่าจะยังไม่ได้รับชำระในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ก็ต้องนำมารวมคำนวณเป็น
รายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีนั้นตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร บริษัท บ. จะงดค่าเช่าและไม่นำ
มาถือเป็นรายได้ของบริษัทฯ ไม่ได้ กรณีดังกล่าวถือเป็นการให้บริการโดยไม่มีค่าตอบแทน
โดยไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจประเมินค่าบริการนั้นตามราคาตลาดในวันที่
ให้บริการ ตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร