กค 0706/4678
14 พฤษภาคม 2547
กฎกระทรวง ฉบับที่ 186 (พ.ศ. 2534)ฯ
67/32946
บริษัท ค. ประกอบกิจการเป็นผู้นำเข้าและส่งออกสินค้า บริษัทฯ มีข้อหารือเกี่ยวกับ
ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจำหน่ายหนี้สูญของลูกหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทฯ มีลูกค้าต่างประเทศ
ซึ่งไม่มีภูมิลำเนาในประเทศไทย บางรายที่บริษัทฯ ส่งมอบสินค้าไปแล้วไม่ชำระค่าสินค้าให้บริษัทฯ โดย
ยอดขายสินค้าของลูกค้าต่างประเทศแต่ละรายดังกล่าว มีมูลค่าเกินกว่า 500,000 บาท ซึ่งบริษัทฯ ได้
ทวงถามอย่างเต็มที่แล้ว หากบริษัทฯ ฟ้องคดีจะเสียค่าใช้จ่ายสูงมากจนไม่คุ้มกับหนี้ที่ได้ชำระประกอบกับ
กฎหมายเกี่ยวกับการจำหน่ายหนี้สูญของกรมสรรพากรไม่ได้กล่าวถึงวิธีปฏิบัติต่อลูกหนี้ต่างประเทศไว้โดย
เฉพาะ ทั้งนี้ บริษัทฯ จำเป็นต้องจำหน่ายหนี้สูญดังกล่าวจากบัญชีลูกหนี้ของบริษัทฯ โดยหักเป็นรายจ่ายใน
การคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล จึงขอหารือ ดังนี้
1. หากบริษัทฯ ดำเนินการตัดหนี้สูญออกจากบัญชีลูกหนี้ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 186 (พ.ศ.
2534) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ข้อ 4 กล่าวคือ ฟ้อง
ลูกหนี้ต่างประเทศซึ่งไม่มีภูมิลำเนาในประเทศไทยเป็นคดีแพ่งในศาลไทย ซึ่งศาลไทยได้พิพากษาให้บริษัทฯ
ชนะคดี ไม่ว่ามูลคดีเกิดขึ้นในประเทศไทยหรือในต่างประเทศก็ตาม ซึ่งกรณีนี้อยู่ในเขตอำนาจของศาล
ไทยที่จะพิจารณาคดี ตามมาตรา 4(1) หรือมาตรา 4 ตรี แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
และต่อมาศาลได้มีคำบังคับหรือคำสั่งให้ลูกหนี้ชำระหนี้ แต่ลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินใด ๆ ที่อยู่ในประเทศไทยที่
จะชำระให้บริษัทฯ ได้ บริษัทฯ เข้าใจว่า บริษัทฯ จำหน่ายหนี้สูญดังกล่าวออกจากบัญชีลูกหนี้ เพื่อเป็น
รายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ทันที เพราะเป็นกรณีที่บริษัทฯ ฟ้องลูกหนี้
เป็นคดีแพ่งต่อศาลและดำเนินการบังคับคดีจนถึงที่สุดแล้ว พบว่าลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินใดในเขตอำนาจของ
ศาลไทย ซึ่งเป็นศาลที่บริษัทฯ ดำเนินการฟ้องคดี ซึ่งศาลไทยไม่มีอำนาจไปบังคับคดีในต่างประเทศได้
เพราะเป็นเขตอำนาจของศาลประเทศนั้น ๆ
2. หากกรมสรรพากรมีความเห็นว่า บริษัทฯ ยังจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้เป็นรายจ่ายใน
การคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่ได้ โดยบริษัทฯ ต้องดำเนินการฟ้องลูกหนี้เป็นคดีแพ่ง
ในศาลต่างประเทศและต้องบังคับคดีจนถึงที่สุด และปรากฏว่าลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินใดในต่างประเทศแล้วนั้น
บริษัทฯ มีความเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวในต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายสูงมาก และต้องมีภาระในการ
ดำเนินคดีจนไม่คุ้มกับจำนวนหนี้ที่บริษัทฯ ไม่ได้รับชำระ กรณีดังกล่าวมีทางเป็นไปได้หรือไม่ที่
กรมสรรพากรจะพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์จำหน่ายหนี้สูญสำหรับลูกค้าต่างประเทศซึ่งไม่มีภูมิลำเนาใน
ประเทศไทย หรือกำหนดจำนวนหนี้ขั้นต่ำที่จำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ของต่างประเทศได้โดยไม่ต้อง
ฟ้องคดี โดยพิจารณาจากค่าของสกุลเงินประกอบด้วย
1. การจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ ในกรณีหนี้ของลูกหนี้แต่ละรายมีจำนวนเกิน 500,000
บาท ขึ้นไป ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้ของลูกหนี้ในประเทศหรือต่างประเทศ จะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในข้อ 4 ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 186 (พ.ศ. 2534) ออกตามความใน
ประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้สำหรับกรณีที่เจ้าหนี้จะดำเนินการฟ้องลูกหนี้ใน
คดีแพ่ง หรือยื่นคำขอเฉลี่ยหนี้ในคดีที่ลูกหนี้ถูกเจ้าหนี้รายอื่นฟ้องในคดีแพ่ง หรือดำเนินการฟ้องลูกหนี้ใน
คดีล้มละลาย หรือได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีที่ลูกหนี้ถูกเจ้าหนี้รายอื่นฟ้องในคดีล้มละลายเพื่อ
จำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในข้อ 4 (2) และ (3) ของ
กฎกระทรวง ฉบับที่ 186 (พ.ศ. 2534)ฯ นั้น เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายหรือข้อตกลงระหว่าง
ประเทศที่กำหนดให้ศาลไทยยอมรับคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลต่างประเทศให้มีผลใช้บังคับใน
ราชอาณาจักรไทยแต่อย่างใด ดังนั้น ในการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ เจ้าหนี้จึงไม่อาจใช้คำพิพากษา
คำบังคับ หรือคำสั่งของศาลต่างประเทศเป็นเอกสารหลักฐานในการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ ตามข้อ
4 (2) และ (3) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 186 (พ.ศ. 2534)ฯ ได้แต่อย่างใด
2. กรณีที่บริษัท ค. จะดำเนินการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ ในกรณีที่หนี้มีจำนวนเกิน
500,000 บาท โดยได้ดำเนินการฟ้องลูกหนี้ต่างประเทศเป็นคดีแพ่งในศาลไทย และในกรณีนั้น ๆ ได้มี
คำบังคับหรือคำสั่งของศาลแล้ว แต่ลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินใด ๆ ที่อยู่ในประเทศไทยจะชำระหนี้ได้ บริษัทฯ
ย่อมจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้และถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิได้ ตาม
มาตรา 65 ทวิ (9) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 4 (2) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 186
(พ.ศ. 2534)ฯ