กค 0706/4932
20 พฤษภาคม 2547
มาตรา 39, มาตรา 66, พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541
67/32959
กรณีวิทยาลัย ส. ซึ่งเลิกกิจการไปแล้ว ขอโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตำบลในเมือง (รอบเมือง)
อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมสิ่งปลูกสร้างคืนให้ นาง ส. ผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา 82
วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.
2535 โดยมี น.ส. ภ. ผู้จัดการมรดกของ นาง ส. เป็นผู้รับโอน ผู้ขอจดทะเบียนเห็นว่า การ
โอนทรัพย์สินดังกล่าวสมควรได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีอากรเช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ นาง ส.
ผู้จัดการมรดกของ นาย ช. (นาย ช. เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งวิทยาลัย) โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน
ดังกล่าวให้แก่วิทยาลัย แต่จังหวัดร้อยเอ็ดเห็นว่าเมื่อไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายให้ได้รับยกเว้น ผู้ขอ
จดทะเบียนต้องเสียภาษีอากร
กรมที่ดินเห็นว่า นาย ช. ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการ
ทบวงมหาวิทยาลัยให้จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชนชื่อเป็นวิทยาลัย ส. เมื่อ นาย ช. เสียชีวิต
ทบวงมหาวิทยาลัย ได้อนุญาตให้ นาง ส. เป็นผู้รับโอนกิจการวิทยาลัย ส. สืบต่อจาก นาย ช. โดยให้
ถือว่า นาง ส. ผู้รับโอนเป็นเสมือนผู้รับใบอนุญาตและเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขมาตรา 12 ทวิ แห่ง
พระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 บัญญัติไว้
นาง ส. ในฐานะผู้จัดการมรดกของ นาย ช. จึงได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าวให้
วิทยาลัย ส. ซึ่งในการจดทะเบียนโอนได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมและภาษีอากรตามมาตรา 12 ตรี แห่ง
พระราชบัญญัติดังกล่าว ต่อมาทบวงมหาวิทยาลัยได้มีคำสั่งให้เลิกกิจการวิทยาลัย ส. ผู้ชำระบัญชีได้ชำระ
บัญชีเสร็จเรียบร้อยแล้วคงมีทรัพย์สินที่เหลืออยู่คือ ที่ดินซึ่ง น.ส. ภ. ต้องการรับโอนที่ดินคืนตามมาตรา
82 วรรคสอง มาตรา 87 และมาตรา 89 แห่งพระราชบัญญัติฯ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2522 บัญญัติให้ยกเว้นภาษีอากรกรณี
โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้แก่สถาบันอุดมศึกษาเอกชน มิได้บัญญัติให้ยกเว้นภาษีอากรกรณีโอนทรัพย์สินที่ดินคืน
ให้แก่ผู้รับใบอนุญาต ผู้ขอจดทะเบียนไม่เห็นด้วย จึงมีข้อพิจารณาว่าพนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องเรียกเก็บ
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์หรือไม่ และเนื่องจากผู้โอนคือวิทยาลัย สยาม
บัณฑิตซึ่งเป็นนิติบุคคลตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติฯ ดังนั้น หากพนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องเรียกเก็บ
ค่าภาษีอากรจะมีวิธีการคำนวณอย่างไร
1. กรณีภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย วิทยาลัย ส. มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามมาตรา 4 และมาตรา
12 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2522 มิได้เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตาม
มาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 66 แห่ง
ประมวลรัษฎากร ดังนั้น กรณีวิทยาลัย ส. โอนที่ดินคืน น.ส. ภ. จึงไม่มีกรณีต้องหักภาษีเงินได้ ณ
ที่จ่าย ตามมาตรา 69 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร
2. กรณีภาษีธุรกิจเฉพาะ การที่วิทยาลัย ส. โอนที่ดินคืน ให้แก่ผู้รับอนุญาตจาก
ทบวงมหาวิทยาลัยให้จัดตั้งวิทยาลัย ส. เข้าลักษณะเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ในการ
ประกอบกิจการเข้าลักษณะเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้าหรือหากำไร ตามมาตรา 4(5) แห่ง
พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา
91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร
3. กรณีอากรแสตมป์ เนื่องจากการโอนที่ดินคืนให้แก่ผู้รับอนุญาตจากทบวงมหาวิทยาลัยอยู่ใน
บังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ใบรับจากการโอนที่ดินได้รับยกเว้นอากรแสตมป์ตามลักษณะแห่งตราสาร
28 แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์