กค 0706/5174
27 พฤษภาคม 2547
พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2499
67/32970
ส่วนราชการหารือกรมสรรพากรเกี่ยวกับการได้รับสิทธิเพื่อการยกเว้นภาษีอากร กรณี
สำนักงานฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณแบบให้เปล่าจากรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคาร
สำนักงานและอาคารฝึกอบรมของศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการแห่งเอเซียและแปซิฟิค โดยสำนักงานฯ
ได้ทำสัญญาว่าจ้างบริษัท ท. ให้ทำการก่อสร้างและจัดหาอุปกรณ์สำหรับศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการ
แห่งเอเซียและแปซิฟิค ซึ่งตามโครงการสนับสนุนงบประมาณแบบให้เปล่าจากรัฐบาลญี่ปุ่นดังกล่าว ได้มี
ข้อกำหนดให้รัฐบาลไทยดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อจัดให้บุคคลสัญชาติญี่ปุ่นที่ทำงานในโครงการนี้ให้ได้รับ
ยกเว้นการเสียภาษีอากรในประเทศไทย และรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นได้มีบันทึกข้อตกลงแลกเปลี่ยน
ระหว่างรัฐบาล กำหนดให้รัฐบาลไทยดำเนินการที่จำเป็นเพื่อจัดให้บุคคลสัญชาติญี่ปุ่นได้รับการยกเว้น
ภาษีศุลกากร ภาษีอากรภายในประเทศและภาษีอากรอื่นๆ ที่อาจเรียกเก็บในประเทศไทยซึ่งเกี่ยวข้องกับ
การจัดหาสินค้าและการให้บริการตามสัญญาที่ตรวจสอบแล้ว สำนักงานฯ จึงขอทราบว่า
1. บริษัทฯ จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับเงินได้ที่ได้รับจากโครงการก่อสร้าง
ตามสัญญาดังกล่าว รวมทั้งจะได้รับยกเว้นไม่ต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย หรือไม่
2. ชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาปฏิบัติงานในเมืองไทยตามโครงการดังกล่าวจะได้รับยกเว้น ไม่ต้อง
ชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการรับทำงานให้ตามโครงการดังกล่าวหรือไม่
และ
3. บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ และสามารถขอคืนภาษีซื้อที่เกิดจาก
การก่อสร้างและจัดหาอุปกรณ์ให้แก่สำนักงานฯ ได้หรือไม่
โครงการก่อสร้างอาคารฯ ดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามโครงการให้ความช่วยเหลือแบบ
ให้เปล่า (Grand Aid) จากรัฐบาลญี่ปุ่น หากปรากฏว่าการให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าดังกล่าวเป็น
ไปตามสัญญาว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจหรือทางเทคนิคระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น บุคคล
สัญชาติญี่ปุ่นที่ได้เข้ามาให้บริการตามโครงการก่อสร้างอาคารฯ จะได้รับยกเว้นภาษีอากรในประเทศไทย
ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับ
ที่ 9) พ.ศ. 2499 ดังนั้น
1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีบริษัทฯ ได้เข้ามารับจ้างกับสำนักงานฯ เพื่อก่อสร้างและจัดหา
อุปกรณ์ตามโครงการก่อสร้างอาคารฯ ในประเทศไทยระหว่างวันที่ 11 สิงหาคม 2546 ถึงวันที่ 31
มีนาคม 2548 ถือว่าบริษัทฯ เป็นนิติบุคคลต่างประเทศที่ได้เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทยและมี
หน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทย ตามมาตรา 65 และมาตรา 66 แห่งประมวลรัษฎากร
หากปรากฏว่าเงินได้ที่บริษัทฯ ได้รับตามสัญญาจ้างเป็นเงินได้ที่ได้จ่ายจากเงินตามสัญญาว่าด้วย
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจหรือทางเทคนิคระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น บริษัทฯ ย่อมได้รับยกเว้น
ภาษีอากร ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2499
2. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีพนักงานชาวญี่ปุ่นของบริษัทฯ ที่ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตาม
โครงการก่อสร้างอาคารฯ ดังกล่าว หากปรากฏว่าเงินได้ที่พนักงานชาวญี่ปุ่นได้รับจากการปฏิบัติหน้าที่
เป็นเงินได้ที่อยู่ในขอบข่ายของสัญญาว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจหรือทางเทคนิคฯ พนักงานชาวญี่ปุ่น
ดังกล่าวจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทย ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ
(ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2499
3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีบริษัทฯ ทำสัญญากับสำนักงานฯ เพื่อรับจ้างก่อสร้างอาคารมูลค่า 194
ล้านบาท บริษัทฯ จึงเป็นผู้ประกอบการและมีหน้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/1(5) และ
มาตรา 85/1 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อบริษัทฯ ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว และบริษัทฯ ได้
ให้บริการตามสัญญารับจ้างกับสำนักงานฯ ซึ่งมีฐานะเป็นส่วนราชการโดยสำนักงานฯ ได้นำเงินที่ได้รับ
การสนับสนุนแบบให้เปล่าจากรัฐบาลญี่ปุ่นมาจ่ายแก่บริษัทฯ จึงเข้าลักษณะเป็นการให้บริการแก่กระทรวง
ทบวง กรม ราชการส่วนท้องถิ่นหรือรัฐวิสาหกิจตามโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
บริษัทฯ ย่อมได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1 (4) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 28) เรื่อง
กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขายสินค้าหรือการให้บริการกับกระทรวง ทบวง กรม
ราชการส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจตามโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศตามมาตรา
80/1(4) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2535 เมื่อบริษัทฯ มีภาษีซื้อที่เกิดจากการ
ประกอบกิจการ บริษัทฯ ย่อมนำมาคำนวณหักออกจากภาษีขายในแต่ละเดือนภาษีได้ตามมาตรา 82/3
แห่งประมวลรัษฎากร และหากมีเครดิตภาษีเหลืออยู่ในแต่ละเดือนภาษี บริษัทฯ มีสิทธินำเครดิตภาษีที่
เหลืออยู่ไปชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนถัดไปได้หรือหากไม่ใช้สิทธิดังกล่าวบริษัทฯ ก็มีสิทธิขอคืนเป็น
เงินสดพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการของเดือนภาษีนั้นได้ ทั้งนี้ ตามมาตรา 84 แห่งประมวลรัษฎากร