views

ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และอากรแสตมป์ กรณีการขายและส่งมอบสินค้า ทางท่อ

วันที่: 11 พฤษภาคม 2550
เลขที่หนังสือ

กค 0706/4671

วันที่

11 พฤษภาคม 2550

ข้อกฎหมาย

คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528ฯ มาตรา 77/1(8) มาตรา 78(1) มาตรา 82/9 มาตรา 82/10 มาตรา 86/9 มาตรา 86/10 และมาตรา 104 แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

70/34902

ข้อหารือ

        1. บริษัทฯ ประกอบกิจการผลิตและขายผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ โดยจัดซื้อวัตถุดิบซิลิโคนส์ ("สินค้า") จากบริษัท A ซึ่งมีรายละเอียดตามสัญญาฯ สรุปได้ดังนี้

        1.1 A ตกลงขายสินค้าให้แก่บริษัทฯ โดยกรรมสิทธิ์และความเสี่ยงในสินค้าโอนไปยังบริษัทฯ เมื่อสินค้าถูกส่งผ่าน A ทางท่อ

            1.2 ในการผลิตสินค้าเพื่อขาย A เป็นผู้จัดหาวัตถุดิบทั้งหมดและจ่ายค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบและจัดหาเครื่องมือ รวมทั้งโรงงานในการผลิตสินค้าแต่เพียงผู้เดียว

            1.3 สัญญาฯ มิได้กำหนดเงื่อนไขว่า บริษัทฯ ต้องทำการตรวจสอบสินค้าก่อนรับมอบแต่อย่างใด แต่บริษัทฯ มีสิทธิขอตัวอย่างสินค้าจาก A มาตรวจสอบเป็นครั้งคราวได้

            1.4 A สามารถขายสินค้าประเภทเดียวกันแก่ลูกค้ารายอื่น ๆ เป็นการทั่วไปได้

            1.5 แม้ว่าสัญญาฯ กำหนดมาตรฐานและคุณสมบัติของสินค้าที่ A ขายแก่บริษัทฯ ถือเป็นเรื่องปกติทั่วไปในการทำสัญญาฯ ซึ่งจะต้องมีการระบุกำหนดมาตรฐานและหรือคุณสมบัติของสินค้าที่จะซื้อขายกัน แต่กรณีนี้ สินค้าดังกล่าวมีลักษณะเป็นการทั่วไปเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับผู้ประกอบกิจการผลิตผลิตภัณฑ์ซิลิโคนส์ โดยไม่มีคุณสมบัติพิเศษแตกต่างไปจากสินค้าลักษณะเดียวกันที่ขายเป็นการทั่วไปในท้องตลาด

            1.6 A ไม่ได้นำเทคโนโลยีจากบริษัทฯ มาใช้ผลิตหรือควบคุมกรรมวิธีการผลิตสินค้าแต่อย่างใด

            1.7 A ผลิตสินค้าขายเป็นปกติธุระและบริษัทฯ มิได้มีคำสั่งให้ A ทำการผลิตสินค้าที่มีรูปแบบโดยเฉพาะแต่อย่างใด

        2. ในการส่งมอบสินค้า A จะดำเนินการส่งมอบสินค้าให้แก่บริษัทฯ ผ่านทางท่อที่เชื่อมต่อระหว่างโรงงานผลิตสินค้าของ A และโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ซิลิโคนส์ของบริษัทฯ โดยมีมาตรวัดหรือมิเตอร์ของ A เป็นอุปกรณ์ในการอ่านปริมาณของสินค้าที่ส่งผ่านทางท่อของโรงงาน A เข้าสู่โรงงานของลูกค้า โดยบริษัทฯ ตกลงที่จะจ่ายราคาค่าสินค้าให้แก่ A โดยแบ่งราคาสินค้าออกเป็น 2 ส่วน เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารของ A ดังนี้

            2.1 ค่า Capacity Charge ประกอบด้วย ต้นทุนทั่วไป เช่น เงินเดือนและค่าตอบแทนพนักงาน ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ค่าเช่าทรัพย์สิน ค่าต้นทุนทางการเงิน และค่าโสหุ้ย ซึ่งเกี่ยวข้องกับกิจการผลิตของ A เป็นต้น โดย A จะประมาณค่า Capacity Charge เป็นการล่วงหน้าทุกไตรมาสและเรียกเก็บเงินจากบริษัทฯ ตามอัตราส่วนของปริมาณสินค้าที่บริษัทฯ ซื้อไปทุกวันที่ 13 ของเดือนในระหว่างไตรมาส โดยเมื่อสิ้นสุดไตรมาส A จะคำนวณค่า Capacity Charge ตามต้นทุนที่ได้เกิดขึ้นจริงและนำส่วนต่างระหว่างต้นทุนจริงและต้นทุนประมาณการเมื่อต้นไตรมาสไปปรับปรุงในการคำนวณค่า Capacity Charge ในไตรมาส

            2.2 ค่า Product Price ประกอบด้วย ต้นทุนโดยตรง เช่น วัตถุดิบ เป็นต้น ซึ่ง A ได้จ่ายไปในกระบวนการผลิตสินค้า บวกด้วยกำไรอีกร้อยละ 10.5 ของต้นทุนดังกล่าว โดย A จะเรียกเก็บค่า Product Price จากบริษัทฯ ทันทีทุกครั้งที่มีการส่งมอบสินค้าให้แก่บริษัทฯ

แนววินิจฉัย

        A ผลิตสินค้าประเภทซิลิโคนส์ที่มีลักษณะเป็นของเหลวเพื่อขายเป็นการทั่วไป โดย A เป็นผู้จัดหาวัตถุดิบ เครื่องมือ รวมทั้งโรงงานในการผลิตสินค้าทั้งหมด ต่อมา A ตกลงทำสัญญาสำหรับขายซิลิโคนส์ให้แก่บริษัทฯ ผ่านทางท่อ โดยมีมิเตอร์วัดปริมาณการขายที่แน่นอน ซึ่งกรรมสิทธิ์และความเสี่ยงในสินค้าจะโอนไปยังบริษัทฯ เมื่อสินค้าถูกส่งผ่าน A ทางท่อ สัญญาฯ ดังกล่าว จึงเข้าลักษณะเป็นสัญญาซื้อขาย ตามมาตรา 453 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และมีภาระภาษีแยกพิจารณาได้ดังนี้

        1. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เนื่องจากสัญญาฯ ดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการขายสินค้า จึงไม่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528ฯ ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 แต่อย่างใด

        2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากการขายซิลิโคนส์ผ่านทางท่อเข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าตามมาตรา 77/1(8) แห่งประมวลรัษฎากร A มีหน้าที่ออกใบกำกับภาษีสำหรับค่าสินค้า ซึ่งประกอบด้วย ค่า Product Price (ต้นทุนโดยตรง เช่น วัตถุดิบ เป็นต้น) และค่า Capacity Charge (ต้นทุนทั่วไป เช่น เงินเดือนและค่าตอบแทนพนักงาน ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ เป็นต้น) และส่งมอบให้บริษัทฯ เมื่อความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตามมาตรา 78(1) แห่งประมวลรัษฎากร กล่าวคือ เมื่อมีการส่งมอบสินค้า เว้นแต่ กรณีที่ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ ได้รับชำระราคาสินค้า หรือได้ออกใบกำกับภาษี เกิดขึ้นก่อนการส่งมอบสินค้า ก็ให้ความรับผิดเกิดขึ้นตามส่วนของการกระทำนั้น ๆ และหากข้อเท็จจริงปรากฏว่า ในการขายสินค้าซึ่งมีการออกใบกำกับภาษีดังกล่าวมีการคำนวณราคาสินค้าผิดพลาดต่ำกว่าหรือสูงกว่าความเป็นจริง A มีสิทธิออกใบเพิ่มหนี้หรือใบลดหนี้ได้ตามมาตรา 82/9 มาตรา 82/10 มาตรา 86/9 และมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร

        3. อากรแสตมป์ สัญญาขายสินค้าดังกล่าวไม่เข้าลักษณะแห่งตราสารตามที่ระบุไว้ในบัญชีอัตราอากรแสตมป์ท้ายหมวด 6 แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่อยู่ในบังคับต้องปิดอากรแสตมป์ตามมาตรา 104 แห่งประมวลรัษฎากร