กค 0811/00023
7 มกราคม 2541
ประเด็นปัญหา
60/26274
ตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ฯ ลงวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ได้
วางแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล เนื่องจากการ
ปรับปรุงระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราตามประกาศกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ไว้ 3
วิธี โดยข้อ 3. กำหนดว่า "บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะเลือกคำนวณกำไรหรือขาดทุนจาก
การตีราคาทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีแรกดังกล่าวเป็นต้นไป แต่ไม่เกินห้า
รอบระยะเวลาบัญชีก็ได้" นั้น ปฏิบัติตามกรณีนี้ ถูกต้องหรือไม่
(1) บริษัทมีสิทธินำผลขาดทุนจากการตีราคาหนี้สินที่เกิดในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2540 ซึ่ง
เป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรกของการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราตามประกาศกระทรวงการคลัง
ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 มาถือเป็นรายจ่ายในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีนับแต่รอบระยะเวลาบัญชีปี
2540 ซึ่งเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรกที่มีการปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเป็นต้นไป แต่ต้องไม่เกิน
5 รอบระยะเวลาบัญชี เท่ากับบริษัททยอยรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นรายจ่ายตั้งแต่
รอบระยะเวลาบัญชีปี 2540 ได้จนถึงไม่เกินรอบระยะเวลาบัญชี 2544
(2) ในกรณีที่บริษัทใช้วิธีคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตาม
คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ฯ ลงวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 ข้อ 3. โดยนำผลขาดทุน
จากอัตราแลกเปลี่ยนมาเฉลี่ยหักเป็นรายจ่าย 5 รอบระยะเวลาบัญชี หากในรอบระยะเวลาบัญชีปีที่ 5
ซึ่งได้แก่ปี 2544 บริษัทมีผลกำไรสุทธิประจำปีน้อยกว่าผลขาดทุนสุทธิประจำปี (ซึ่งได้รวมผลขาดทุนจาก
อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยดังกล่าวแล้ว) บริษัทมีสิทธินำผลขาดทุนสุทธินั้นยกไปใช้ได้อีกต่อไป แต่ไม่เกิน 5
รอบระยะเวลาบัญชีนับจากปี 2544 ทั้งนี้ตามมาตรา 65 ตรี (12) แห่งประมวลรัษฎากร
1. กรณีตาม 1. จะต้องเป็นกรณีที่บริษัทฯ มีหนี้สินซึ่งมีค่าหรือราคาเป็นเงินตรา
ต่างประเทศที่เหลืออยู่ในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี 2540 ซึ่งเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรกของ
การปรับปรุงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราตามประกาศกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 และ
เมื่อได้คำนวณค่าหรือราคาเป็นเงินตราไทยแล้วมีผลขาดทุนเท่าใด บริษัทฯ มีสิทธินำผลขาดทุนดังกล่าวมา
เฉลี่ยออกเป็นกี่รอบระยะเวลาบัญชีก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 5 รอบระยะเวลาบัญชี ไม่ว่าระยะเวลาการ
ชำระหนี้จะเหลืออยู่มากหรือน้อยกว่า 5 รอบระยะเวลาบัญชีก็ตาม แต่ต้องระบุให้ชัดเจนว่าบริษัทได้เลือก
ใช้วิธีการคำนวณผลขาดทุนตามข้อ 3 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.72/2540 ฯ ลงวันที่ 24
กรกฎาคม พ.ศ. 2540 และเลือกเฉลี่ยกี่รอบระยะเวลาบัญชีซึ่งต้องใช้วิธีการนั้นกับทรัพย์สินหรือหนี้สินทุก
รายการหรือทุกสัญญาโดยต้องใช้ทั้งในบัญชีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและในบัญชีเพื่อประโยชน์ใน
การคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วย
2. กรณีตาม 2. ถูกต้องแล้ว