กค 0706/517
18 มกราคม 2550
มาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร
70/34736
นางสาว ป. ได้รับมอบหมายให้กระทำแทนนายจ้างในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก
ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากรกรณีผู้มีเงินได้ออกจากงานระหว่างปี เพื่อใช้เป็น
แนวทางในการปฏิบัติงานและทำความเข้าใจกับพนักงาน โดยมีข้อเท็จจริงสรุปได้ ดังนี้
นาย ก จะครบสัญญาจ้างแรงงานแบบมีกำหนดระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน ในวันที่ 31 มกราคม 2550
มีวิธีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายอย่างไร
วิธีที่ 1
เงินเดือนเสมือนหนึ่งว่าได้จ่ายทั้งปี 30,000 X 12 360,000 บาท
หักค่าใช้จ่ายร้อยละ 40 ไม่เกิน 60,000 บาท 60,000 บาท
คงเหลือเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 300,000 บาท
หัก ค่าลดหย่อนส่วนตัว 30,000 บาท
ค่าลดหย่อนคู่สมรส 30,000 บาท
ค่าลดหย่อนบุตร(ศึกษา) 34,000 บาท
ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยฯ 10,000 บาท
เงินได้สุทธ 196,000 บาท
ภาษีเงินได้ทั้งป 9,600 บาท
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายเดือนมกราคม 9,600 บาท
วิธีที่ 2
เงินเดือนเสมือนหนึ่งว่าได้จ่ายทั้งปี 30,000 X 12 360,000 บาท
หักค่าใช้จ่ายร้อยละ 40 ไม่เกิน 60,000 บาท 60,000 บาท
คงเหลือเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 300,000 บาท
หัก ค่าลดหย่อนส่วนตัว 30,000 บาท
ค่าลดหย่อนคู่สมรส 30,000 บาท
ค่าลดหย่อนบุตร(ศึกษา) 34,000 บาท
ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยฯ 10,000 บาท
เงินได้สุทธิ 196,000 บาท
ภาษีเงินได้ทั้งปี 96,000 บาท
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายเดือนมกราคม (96,000 หาร 12 คูณ 1) 800 บาท
นางสาว ป. จึงขอทราบว่า
1. วิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
กรณีผู้มีเงินได้ออกจากงานระหว่างปีจะต้องคำนวณวิธีที่ 1 หรือวิธีที่ 2 เพราะเหตุใด
2. หากคำตอบคือคำนวณวิธีที่ 2 จะเป็นการขัดกับข้อ 1 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.96/2543
เรื่อง การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร
กรณีการจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.
2543หรือไม่ และกรณีนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนจะมีความผิดอะไร
1. กรณีตาม 1 การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย สำหรับเงินได้พึงประเมินที่จ่าย
ในเดือนสุดท้ายเนื่องจากผู้มีเงินได้ออกจากงานระหว่างปี ให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินมีสิทธิที่จะ
คำนวณภาษีเพื่อให้เงินภาษีที่หักไว้ถูกต้องครบถ้วนตามรายการค่าลดหย่อนที่แท้จริง ตามหลักฐาน
ที่ผู้มีเงินได้นำมาแสดง โดยนำเงินภาษีที่หักไว้ไม่ครบถ้วนหรือเกินในเดือนก่อนๆ มารวมหรือหัก
กับภาษีที่ต้องหัก ณ ที่จ่ายไว้ครั้งสุดท้ายนั้น ได้ผลลัพธ์เป็นเงินเท่าใด ให้หักและนำส่งไว้เท่านั้น
ทั้งนี้ ตามมาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร
2. กรณีตาม 2 กรณีนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายไม่ครบถ้วนต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน
หรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องนำส่งโดยไม่รวมเบี้ยปรับ ตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร