views

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย กรณีการคำนวณหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับเงินชดเชยการปฏิบัติงานที่ลูกจ้างทำงานไม่ถึง 5 ปี

วันที่: 2 กรกฎาคม 2541
เลขที่หนังสือ

กค 0811/10083

วันที่

2 กรกฎาคม 2541

ข้อกฎหมาย

มาตรา 40, มาตรา 48, มาตรา 50, คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.6/2530, ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)

เลขตู้

61/26866

ข้อหารือ

     นาย ก. ทำงานที่บริษัท ข. จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2538 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม
2541 และบริษัทฯ ได้เลิกจ้างตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2541 พร้อมได้จ่ายเงินเดือนประจำเดือน
พฤษภาคม 2541 และเงินชดเชยการปฏิบัติงานจำนวน 619,808.33 บาท (ตามรายได้ 2 - 5) และ
ได้คำนวณหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้จำนวน 149,864 บาท ซึ่งนาย ก. มีความเห็นว่าบริษัทฯ คำนวณหักภาษี
ณ ที่จ่ายเพราะเหตุออกจากงานไว้สูง โดยนาย ก. มีสถานะการสมรส "หม้าย" ไม่มีบุตร และมีรายได้
และค่าใช้จ่าย ดังนี้
     รายได้
     1. เงินเดือนสำหรับเดือนมกราคม - เมษายน 2541 เดือนละ 70,523 บาท
     2. เงินเดือนสำหรับเดือนพฤษภาคม 2541 เดือนละ 72,865 บาท และเงินผลประโยชน์
ตอบแทนอื่น ๆ (Car Allow) จำนวน 12,600 บาท รวม 85,465 บาท
     3. เงินชดเชยการปฏิบัติงานครบกำหนดเกิน 3 ปี จำนวน 180 วัน จำนวน 437,190 บาท
     4. เงินค่าสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 1 งวดการจ่ายค่าจ้าง จำนวน 72,865 บาท
     5. เงินค่าชดเชยวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ 10 วัน จำนวน 24,288.33 บาท
     รายจ่ายและภาษีหัก ณ ที่จ่าย
     1. ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเพราะเหตุออกจากงาน จำนวน 149,864 บาท
     2. จ่ายเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพ จำนวน 20,000 บาท/ปี
     3. เงินสมทบกองทุนประกันสังคม จำนวน 150 บาท
     ขอทราบว่าการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายกรณีดังกล่าว ว่าถูกต้องหรือไม่

แนววินิจฉัย

     กรณีตามข้อเท็จจริง
     1. รายได้ตาม 1 - 5 เข้าลักษณะเป็นเงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน ถือเป็นเงินได้
ตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร แต่เนื่องจากนาย ก. ได้ทำงานที่บริษัทฯ เพียง 3 ปี 2
เดือน (ไม่ถึง 5 ปี)เงินชดเชยการปฏิบัติงานตามข้อ 3 - 5 จึงไม่เข้าลักษณะเป็นเงินได้ที่นายจ้างจ่าย
ให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานตามมาตรา 48 (5) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2 (ก)
ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขของเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งนายจ้างจ่าย
ให้ครั้งเดียว เพราะเหตุออกจากงานตามมาตรา 48 (5) และมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2535 ท่านไม่มีสิทธิ์เลือกคำนวณภาษีและหักค่าใช้จ่ายตามมาตรา 48 (5)
แห่งประมวลรัษฎากร แต่ต้องนำเงินได้นั้นมารวมเสียภาษีตามมาตรา 48 (1) แห่งประมวลรัษฎากร
     2. นาย ก. ได้ทำงานในปี 2541 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม กรณีไม่ถือว่า
เข้าทำงานระหว่างปี กรณีไม่อาจคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.16/2530
เรื่อง การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย กรณีการจ้างแรงงานระหว่างปี ลงวันที่ 8
กรกฎาคม พ.ศ. 2530 ดังนั้นบริษัทฯ ผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่คำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย สำหรับเงินได้
ที่จ่ายเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2541 ตามมาตรา 50 (1) วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร โดยคำนวณ
เงินได้ที่จ่ายเสมือนหนึ่งว่าได้จ่ายทั้งปี โดยคูณเงินได้พึงประเมินด้วย 12 หักด้วยค่าใช้จ่ายและ
ค่าลดหย่อนต่าง ๆ แล้วคำนวณภาษีตามอัตราภาษี เป็นเงินภาษีเท่าใดให้หารด้วย 12 ดังนี้
     2.1. คำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากเงินเดือน จำนวน 72,865 บาท
      - เงินได้เสมือนว่าจ่ายทั้งปี (72,865 x 12)      874,380.00 บาท
     - หักค่าใช้จ่าย 40% ไม่เกิน 60,000       -60,000.00 บาท
      - คงเหลือเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย           814,380.00 บาท
     - หักค่าลดหย่อน
      ผู้มีเงินได้           30,000.00
      เบี้ยประกันชีวิต      10,000.00
      เงินสมทบกองทุนประกันสังคม     150.00      -40,150.00 บาท
     - คงเหลือเงินได้สุทธิ                774,230.00 บาท
     - ภาษีเงินได้สำหรับเงินเดือนทั้งปี           99,846.00 บาท
     - ภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับเงินเดือน (99,846/12)      8,320.50 บาท
     2.2 คำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากเงินผลประโยชน์อื่น ๆ จำนวน 12,600 บาท และ
เงินชดเชยการปฏิบัติงาน (3+4+5) จำนวน 534,343.33 บาท ซึ่งมีลักษณะเป็นเงินได้เพิ่มเติมจาก
เงินได้ประจำในเดือนพฤษภาคม 2541 ต้องนำเงินได้เพิ่มเติมนี้ไปรวมกับเงินเดือนเสมือนว่าจ่ายทั้งปี
แล้วคำนวณภาษีดังนี้
     - เงินเดือนเสมือนว่าจ่ายทั้งปี (72,865 x 12)      874,380.00 บาท
     - เงินผลประโยชน์ฯ (12,600 x 1)           12,600.00 บาท
     - เงินชดเชยฯ (534,343.33 x 1)          534,343.33 บาท
     รวมเงินได้                1,421,323.33 บาท
     - หักค่าใช้จ่าย 40% ไม่เกิน 60,000       -60,000.00 บาท
     - คงเหลือเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย          1,361,323.33 บาท
     - หักค่าลดหย่อน
     ผู้มีเงินได้           30,000.00
     เบี้ยประกันชีวิต      10,000.00
     เงินสมทบกองทุนประกันสังคม     150.00     -40,150.00 บาท
     - คงเหลือเงินได้สุทธิ                1,321,173.33 บาท
     - ภาษีเงินได้สำหรับเงินผลประโยชน์ฯ และเงินชดเชยฯ 241,352.00 บาท
     - หักภาษีเงินได้สำหรับเงินเดือนทั้งปี       -99,846.00 บาท
     - คงเหลือภาษีหัก ณ ที่จ่ายเงินผลประโยชน์ฯและเงินชดเชยฯ 141,506.00 บาท
     ดังนั้น บริษัทฯต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ดังนี้
     1. เงินเดือนเดือนพฤษภาคม 2541           8,320.50 บาท
     2. เงินผลประโยชน์ตอบแทนฯ และเงินชดเชยฯ      141,506.00 บาท
                รวมเป็นเงิน      149,826.50 บาท