กค 0706/6175
26 กรกฎาคม 2548
มาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
68/33495
มหาวิทยาลัยฯ ได้มีการอนุมัติให้เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยฯ ยืมเงินของทางราชการหรือในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ทดรองจ่ายเงินส่วนตัวเพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ณ สถานที่ของผู้ขายหรือผู้รับจ้าง เมื่อเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยฯ ดำเนินการส่งใบสำคัญคู่จ่าย เพื่อทำการเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณหรือเงินนอกงบประมาณของมหาวิทยาลัยฯ มหาวิทยาลัยฯ จะต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายอีกหรือไม่ หากต้องจ่ายจะต้องจ่ายในยอดสุทธิหรือไม่ และต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (แบบ บก.28) อย่างไร โดยเฉพาะวันเดือนปีที่จ่าย
1.วิธีการจัดซื้อจัดจ้างตามข้อหารือของมหาวิทยาลัยฯ แยกพิจารณาได้ดังนี้
1.1 กรณีเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยฯ ยืมเงินทดรองจ่ายของมหาวิทยาลัยฯ ไปดำเนินการจัดซื้อหรือจัดจ้าง เมื่อมหาวิทยาลัยฯ อนุมัติให้เจ้าหน้าที่ยืมเงินทดรอง มหาวิทยาลัยฯ ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย เพราะการจ่ายเงินทดรองราชการมิใช่การสั่งซื้อหรือสั่งจ้าง ที่อยู่ในบังคับต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50(4) หรือ มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และหากมหาวิทยาลัยฯ มิได้เป็นผู้ออกใบสั่งซื้อหรือสั่งจ้างโดยตรง เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งยืม เงินทดรองของมหาวิทยาลัยฯ ไปจ่ายค่าซื้อสินค้าหรือค่าจ้างก็ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย แต่อย่างใด อย่างไรก็ดี กรณีมหาวิทยาลัยฯ ได้ออกใบสั่งซื้อหรือสั่งจ้างโดยตรง และให้เจ้าหน้าที่ยืมเงินทดรองราชการไปจ่ายให้กับผู้ขายสินค้าหรือผู้รับจ้างตามใบสั่งซื้อหรือสั่งจ้างนั้น มหาวิทยาลัยฯ มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50(4) หรือมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
1.2 กรณีเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยฯ สำรองจ่ายเงินส่วนตัวเพื่อดำเนินการจัดซื้อหรือจัดจ้างไปก่อนและมหาวิทยาลัยฯ มิได้เป็นผู้ออกใบสั่งซื้อหรือสั่งจ้างโดยตรง เจ้าหน้าที่ ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย เมื่อเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยฯ ได้ส่งใบสำคัญคู่จ่ายมา เบิกจ่ายเงินจากเงินงบประมาณหรือเงินนอกงบประมาณของมหาวิทยาลัยฯ มหาวิทยาลัยฯ ไม่มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย เนื่องจากถือเป็นการจ่ายคืนให้กับเจ้าหน้าที่
2.สำหรับการออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย กรณีมหาวิทยาลัยฯ จ่ายเงินได้ ให้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา 50 แห่งประมวลรัษฎากร หรือจ่ายให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร หากเป็นกรณีมีการตั้งฎีกาเบิกเงินตามมาตรา 53 แห่งประมวลรัษฎากร ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้จ่ายเงินตรวจสอบให้แน่ชัดว่า จำนวนเงินภาษีที่ต้องหักนั้นได้คำนวณและจดไว้ในฎีกาเบิกเงินแล้วและเป็นหน้าที่ที่จะต้องหักเงินจำนวนนั้นก่อนจ่ายและให้ใช้แบบ บก. 28 เป็นใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยระบุวัน เดือน ปี ที่จ่ายตามความเป็นจริง
กรณีมหาวิทยาลัยฯ มิได้คำนวณหักภาษี ณ ที่จ่าย ไว้ในฎีกาเบิกเงิน เมื่อจ่ายเงินได้ให้บุคคลธรรมดา มหาวิทยาลัยฯ มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50(4) แห่งประมวลรัษฎากร และมีหน้าที่ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ในทันทีทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย ทั้งนี้ ตามมาตรา 50 ทวิ(3) แห่งประมวลรัษฎากร และกรณีมหาวิทยาลัยฯ จ่ายเงินได้ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มหาวิทยาลัยฯ ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ในกรณีดังกล่าวมหาวิทยาลัยฯ ไม่อยู่ในบังคับต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร แต่มหาวิทยาลัยฯ ต้องออกหลักฐานให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเพื่อแสดงว่าการจ่ายเงินได้พึงประเมินนั้นได้มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว