กค 0706/6231
25 กรกฎาคม 2549
มาตรา 91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร
69/34382
ผู้จัดการมรดกของนาย สุ. ได้ขายที่ดินและเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในขณะจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรม ณ กรมที่ดิน โดยมีข้อเท็จจริง ดังนี้
1. วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 นาย สุ. นาย อา. และนาย สิน. ได้ร่วมกันซื้อที่ดินมาเพื่อขายโดย
ระบุชื่อทั้ง 3 คนในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมได้แก่ที่ดิน น. ส. 3 ก.
2 วันที่ 13 สิงหาคม 2543 นาย สุ. ได้ถึงแก่กรรม ก่อนศาลมีคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ได้มี
บุคคลภายนอกมาขอซื้อที่ดินดังกล่าว เนื่องจากขณะนั้นคดีร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนาย สุ.
อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ทำให้คณะบุคคลไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในส่วนของ
นาย สุ. ให้แก่ผู้ซื้อได้ ดังนั้น ในวันที่ 23 สิงหาคม 2543 นาย อา. และนาย สิน. ได้ร่วมกันขายที่ดิน
น. ส. 3 ก. เฉพาะส่วนของแต่ละคนให้แก่ นาง ท.โดยเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและเสียภาษี
ธุรกิจเฉพาะในนามของคณะบุคคลฯ
3. วันที่ 2 พฤศจิกายน 2543 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง นาย ธ. เป็นผู้จัดการมรดก
ของนาย สุ.
4. วันที่ 13 ธันวาคม 2543 นาย ธ. ในฐานะผู้จัดการมรดกของนาย สุ. ได้ขายที่ดิน น. ส. 3 ก.
เฉพาะส่วนของตนให้แก่นาง ท.
5. วันที่ 25 เมษายน 2544 นาย ธ. ในฐานะผู้จัดการมรดกของนาย สุ. นาย อา. และนาย สิน.
ได้ร่วมกันขายที่ดิน น. ส. 3 ก. ให้แก่นางสาว วา. โดยเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและเสียภาษี
ธุรกิจเฉพาะในนามคณะบุคคล
กรณีการขายที่ดินตาม 1 โดย นาย สุ. นาย อา. และนาย สิน. ได้ร่วมกันซื้อไว้ 2 แปลง เมื่อวันที่
25 พฤษภาคม 2542 ต่อมา นาย สุ. ถึงแก่กรรมและศาลยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดก นาย อา.
กับ นาย สิน. เพียง 2 คนได้ร่วมกันขายที่ดินแปลงหนึ่งให้แก่นาง ท. ไปบางส่วน เมื่อศาลได้มีคำสั่ง
แต่งตั้งนาย ธ. เป็นผู้จัดการมรดกนาย ธ. ในฐานะผู้จัดการมรดกจึงได้ขายที่ดินส่วนที่เหลือให้แก่
นาง ท. จากนั้นบุคคลทั้งสามก็ได้ร่วมกันขายที่ดินอีกแปลงหนึ่งให้แก่นางสาว ว. ตามข้อเท็จจริง
ข้างต้น ถือเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์รวมที่ได้ร่วมกันซื้อมาและร่วมกันขายไป
เพื่อหากำไร โดยมีเจตนาร่วมลงทุนในการซื้อที่ดินดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นการประกอบกิจการของ
ห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียนหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ดังนั้น เมื่อขายที่ดินในกรณีนี้
ไปภายใน 5 ปีนับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้น ถือเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้า
หรือหากำไร จึงต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2(6) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับ
มาตรา 4 (6) แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์
เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541 โดยต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคล
ธรรมดา (ภ.ง.ด. 90) และแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ ในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จด
ทะเบียน หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ทั้งนี้ การขายอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษี
ธุรกิจเฉพาะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียอากรแสตมป์ ตามข้อยกเว้นในลักษณะแห่งตราสาร 28. ใบรับ
แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์