views

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการเปลี่ยนแปลงผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ

วันที่: 23 กรกฎาคม 2555
เลขที่หนังสือ

กค 0702/6195

วันที่

23 กรกฎาคม 2555

ข้อกฎหมาย

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

เลขตู้

75/38254

ข้อหารือ


        ห้างฯ ขอหารือเรื่องการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการเปลี่ยนแปลงผู้เป็นหุ้นส่วนใน
ห้างหุ้นส่วนสามัญโดยมีข้อเท็จจริง สรุปได้ดังนี้

        1. เดิมห้างฯ จัดตั้งขึ้นโดยมีหุ้นส่วน 2 คน คือ นาย อ. และนาย ว. ประกอบกิจการขายปลีกทองรูปพรรณ ซึ่งเป็นพาณิชยกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ.2499 และอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ห้างฯ ได้มีการตกลงระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน ให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้เป็นหุ้นส่วน โดยให้ นาย ว. ออกจากการเป็นหุ้นส่วน และให้นางสาว ภ. เข้ามาเป็นหุ้นส่วนแทน

        2. ห้างฯ ขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้เป็นหุ้นส่วน และนายทะเบียนพาณิชย์ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงให้ แต่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม เจ้าหน้าที่สรรพากร งานบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร สท.กรุงเทพมหานคร ไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากระบบไม่ให้มีการบันทึกเปลี่ยนแปลงผู้เป็นหุ้นส่วน หากมีความประสงค์จะเปลี่ยนแปลงกรณีดังกล่าวจะต้องแจ้งเลิกห้างฯ เดิม และขอจัดตั้งห้างฯ ใหม่ ตามระเบียบที่ประชุมของกรมสรรพากร เมื่อวันที่ 13มกราคม 2552 ซึ่งห้างฯ ชี้แจงว่า ในการเลิกห้างหุ้นส่วน จะเกิดผลเสีย กล่าวคือ ห้างฯ ประกอบกิจการขายทองรูปพรรณการเลิกกิจการถือเป็นการขายสินค้าในสต๊อก ต้องนำไปเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก

        3. ห้างฯ ขอทราบแนวทางปฏิบัติ กรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนตกลงยินยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้เป็นหุ้นส่วน และนายทะเบียนพาณิชย์ได้แก้ไขตามสัญญาจัดตั้งห้างฯ

แนววินิจฉัย

        1. กรณีตามข้อเท็จจริงนาย อ. และนาย ว. ได้ตกลงกันเปลี่ยนแปลงผู้เป็นหุ้นส่วนใหม่โดยให้นายวินัยฯ ออกจากการ เป็นหุ้นส่วนของห้างฯ และให้นางสาว ภ. เข้ามาเป็นหุ้นส่วนใหม่ อีกทั้งได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต่อ กระทรวงพาณิชย์แล้ว ในการพิจารณาว่าการเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนใหม่จะถือเป็นการเลิกกิจการหรือไม่ ต้องพิจารณาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และจะมีได้ในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น

             1.1 การเลิกกันโดยผลของสัญญา

                  1.1.1 สัญญากำหนดกรณีอันใดเป็นเหตุที่จะเลิกกัน เมื่อมีกรณีนั้น ตามมาตรา 1055 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

                  1.1.2 สัญญาทำไว้เฉพาะกำหนดกาลใด เมื่อสิ้นกำหนดกาลนั้น ตามมาตรา 1055 (2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

                  1.1.3 สัญญาทำไว้เฉพาะเพื่อทำกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดแต่อย่างเดียวเมื่อเสร็จการนั้น ตามมาตรา 1055 (3) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

             1.2 การเลิกกันโดยบทบัญญัติของกฎหมาย

                  1.2.1 ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งบอกเลิกในกรณีของห้างหุ้นส่วนไม่มีกำหนดเวลาตามมาตรา 1055 (4) และมาตรา 1056 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

                  1.2.2 ผู้เป็นหุ้นส่วนตาย ล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ ตามมาตรา 1055 (5) แห่งประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์

             1.3 การเลิกกันโดยคำสั่งศาล

                  1.3.1 กรณีมีการล่วงละเมิดบทบังคับใดๆ อันเป็นสาระสำคัญ ตามมาตรา1057 (1) แห่งประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์

                  1.3.2 กรณีห้างหุ้นส่วนมีแต่ขาดทุนอย่างเดียวและไม่มีหวังจะกลับฟื้นตัวได้อีกตามมาตรา 1057 (2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

                  1.3.3 กรณีมีเหตุอื่นที่ทำให้ห้างหุ้นส่วนเหลือวิสัยที่จะดำรงอยู่ต่อไปตามมาตรา 1057 (3) แห่งประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์

                  1.3.4 กรณีผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดประกอบกิจการแข่งขันกับกิจการของ ห้างหุ้นส่วนเป็นเหตุให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายนอกนั้นใช้สิทธิเรียกให้เลิกห้างหุ้นส่วน ตามมาตรา 1067 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

        นอกจากนี้ผู้เป็นหุ้นส่วนจะตกลงกันเลิกห้างหุ้นส่วนในภายหลังเมื่อใดก็ทำได้หรือแม้แต่จะตกลงกันแต่แรกว่าจะเลิกห้างหุ้นส่วนกันในกรณีใดและเมื่อใด แต่ต่อมาภายหลังจะตกลงกันเป็นอย่างอื่นก็สามารถทำได้ เนื่องจากการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญเป็นเรื่องของนิติกรรมและสัญญา และกรณีที่ห้างหุ้นส่วนสามัญมีความประสงค์จะเพิ่มหรือลดหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งโดยไม่มีเจตนาเลิกห้างหุ้นส่วน และไม่อยู่ในบังคับตามกฎหมายให้ห้างหุ้นส่วนต้องเลิกกันถือว่าห้างหุ้นส่วนไม่ได้เลิกกัน

        กรณี นาย อ. ตกลงร่วมกับนาย ว. โดยตกลงให้นางสาว ภ. มาเป็นหุ้นส่วนคนใหม่ของห้างฯ แทนนายวินัยฯ และขอให้ฝ่ายทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและงานเลขบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร สท.กรุงเทพมหานคร แก้ไขการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้โดยมิได้ประสงค์จะเลิกห้างฯ ดังนั้น เมื่อห้างฯ ได้มีการเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนใหม่ โดยความเห็นชอบของหุ้นส่วนคนอื่นๆ และได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้เป็นหุ้นส่วนต่อกระทรวงพาณิชย์แล้ว ถือว่าห้างหุ้นส่วนยังคงอยู่ต่อไปมิได้เลิกกัน ตามมาตรา 1055 หรือมาตรา 1056 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อห้างหุ้นส่วนสามัญไม่ได้เลิกกัน และห้างฯประสงค์จะประกอบกิจการต่อไป ห้างฯ มีสิทธิแจ้งขอเปลี่ยนแปลงผู้เป็นหุ้นส่วน และใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีเดิมได้ต่อไป ทั้งนี้ จะได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขระเบียบ แนวทางปฏิบัติ และปรับปรุงโปรแกรมการบันทึกข้อมูลต่อไป