views

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

วันที่: 30 สิงหาคม 2553
เลขที่หนังสือ

กค 0702/6590

วันที่

30 สิงหาคม 2553

ข้อกฎหมาย

มาตรา 39 มาตรา 40(1) และมาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

73/37490

ข้อหารือ

          น.ส. ก. เป็นผู้ให้บริการจัดทำรายการเงินเดือนพนักงานของบริษัท ม.(บริษัทฯ) บริษัทฯ ได้จ่ายเงินสวัสดิการนอก เหนือ จากเงินเดือนให้แก่พนักงานเดือนละ 25,000 บาท ประกอบด้วยเงินค่าเช่าบ้านจำนวน 17,500 บาท และเงินภาษีที่คำนวณจาก ค่าเช่าบ้านจำนวน 7,500 บาท มีระยะเวลาการจ่ายให้แก่พนักงานจนถึงเดือนธันวาคม 2550 แต่บริษัทฯ จ่ายเงินสวัสดิการให้ พนักงานถึงเดือนธันวาคม 2551 โดยบริษัทฯ นำเงินค่าเช่าบ้านและภาษีที่บริษัทฯ ออกให้มารวมเป็นเงินได้ของพนักงานและ หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้จนถึงเดือนธันวาคม 2551 รวมเป็นเงินสวัสดิการที่บริษัทฯ จ่ายเกินกว่าที่ระบุไว้ในสัญญาจำนวน 300,000 บาท ซึ่งพนักงานต้องส่งเงินที่เกินคืนบริษัทฯ แต่ไม่สามารถชำระเงินส่วนเกินดังกล่าวคืนได้ในครั้งเดียว บริษัทฯ และพนักงาน จึงตกลงที่จะใช้วิธีการหักจากเงินเดือนเป็นรายเดือน 12 เดือน (เงินเดือนของพนักงานในปัจจุบันเดือนละ 137,042.88 บาท) ท่านจึงขอทราบว่า บริษัทฯ สามารถหักเงินที่จ่ายเกินดังกล่าวจากเงินเดือนปัจจุบันของพนักงานอย่างไร ดังนี้

          1. บริษัทฯ ต้องหักค่าเช่าบ้านที่จ่ายเกินจากเงินเดือนของพนักงานเป็นรายเดือนๆ ละ 17,500 บาท เป็นระยะเวลา 12 เดือน รวมเป็นเงิน 210,000 บาท แม้ในสัญญาจะระบุว่ามีการจ่ายเงินเท่ากับ 300,000 บาท ซึ่งเป็นยอดที่รวมภาษีหัก ณ ที่จ่ายด้วย แต่พนักงานได้รับจริงเป็นระยะเวลา 12 เดือน รวม 210,000 บาท หรือจะหักเงินคืนเดือนละ 25,000 บาท (รวมค่าภาษี)

          2. บริษัทฯ ต้องยื่นปรับปรุงแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด. 1) และแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด. 1ก.) และพนักงานต้องยื่นปรับปรุงแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 91) ประจำปีภาษี 2551 หรือไม่

          3. เงินภาษีหัก ณ ที่จ่ายจำนวน 90,000 บาท (7,500*12) กรมสรรพากรจะคืนให้แก่บริษัทฯ หรือพนักงาน

          4. เงินได้พึงประเมินของพนักงานที่จะต้องคำนวณภาษีภาษีหัก ณ ที่จ่ายปี 2553 จะคำนวณจากเงินเดือนปัจจุบันหรือ เงินที่ได้รับหลังจากหักคืนเงินส่วนที่เกิน

แนววินิจฉัย

          1. กรณีบริษัทฯ จะเรียกเงินสวัสดิการที่จ่ายเกินคืนจากพนักงานนั้น จะปฏิบัติอย่างไรเป็นเรื่องที่บริษัทฯ และพนักงาน จะต้องตกลงกัน

          2. กรณีบริษัทฯ จ่ายเงินสวัสดิการเกินไปและได้มีการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายแล้วต่อมาเมื่อบริษัทฯ ได้รับเงินดังกล่าวคืน บริษัทฯ ต้องนำมาถือเป็นรายได้ของรอบระยะเวลาบัญชีนั้นแต่ไม่ต้องยื่นรายการปรับปรุงแบบ ภ.ง.ด. 1 และ ภ.ง.ด. 1ก และ พนักงานซึ่งต้องคืนเงินสวัสดิการส่วนที่เกินคืนบริษัทฯ ทำให้เงินได้พึงประเมินที่ได้รับลดลงจึงต้องยื่นรายการปรับปรุงแบบ ภ.ง.ด. 91 ประจำปีภาษี 2551

          3. บริษัทฯ จ่ายเงินสวัสดิการนอกเหนือจากเงินเดือนให้แก่พนักงานได้แก่ค่าเช่าบ้านและเงินภาษีที่คำนวณจากค่าเช่าบ้าน ถือเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทเงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงานของลูกจ้างตามมาตรา 39 และมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร แต่บริษัทฯ จ่ายเงินสวัสดิการดังกล่าวให้พนักงานเกินกว่าที่ระบุไว้ในสัญญา 300,000 บาท (รวมภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่บริษัทฯ ออกให้) เป็นเหตุให้พนักงานต้องส่งเงินส่วนที่เกินคืนบริษัทฯ หากพนักงานได้ชดใช้เงินคืนให้แก่บริษัทฯ และดำเนินการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 91 ประจำปีภาษี 2551 ปรับปรุงรายการเมื่อคำนวณภาษีแล้วมีภาษีที่ชำระไว้เกินพนักงานจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนภาษีได้ภายใน กำหนดเวลา 3 ปี นับแต่วันสุดท้ายแห่งปีซึ่งได้ถูกหักภาษีเกินไปตามมาตรา 63 แห่งประมวลรัษฎากร

          4. การหักภาษี ณ ที่จ่ายของพนักงานที่ต้องคืนเงินบริษัทฯ ในปี 2553 ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย เมื่อมีการจ่ายเงินได้พึงประเมิน (อัตราเงินเดือนในปัจจุบัน) ตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร