กค 0706/9085
7 กันยายน 2550
มาตรา 65 ตรี (6)(9) แห่งประมวลรัษฎากร
70/35273
บริษัท A เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยประกอบกิจการขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ด้านค้าปลีก และน้ำยาทำความสะอาดรวมทั้งให้บริการซ่อม ติดตั้ง นำเข้าส่งออกสินค้าทุกประเภท บริษัทฯ ได้นำเข้าเครื่องทำเครื่องดื่มร้อน (เครื่องชงกาแฟ)ซึ่งสินค้าดังกล่าวหากถือเป็นสินค้าอุตสาหกรรมจะมีพิกัดอัตราอากรในการนำเข้าร้อยละ 1 แต่ถ้าถือเป็นสินค้าในครัวเรือนจะมีพิกัดอัตราอากรร้อยละ 30 ในกรณีของบริษัทฯ นั้น บริษัทฯ นำเข้าสินค้าเครื่องทำเครื่องดื่มร้อนเพื่อเป็นสินค้าอุตสาหกรรมจึงได้ชำระอากรในพิกัดอัตราร้อยละ 1 แต่ภายหลังหากกรมศุลกากรวิเคราะห์ว่า เครื่องทำเครื่องดื่มร้อนที่บริษัทฯ นำเข้า เป็นสินค้าในครัวเรือนจะต้องเสียอากรในอัตราร้อยละ 30 ดังนั้น เมื่อบริษัทฯ นำเข้าเครื่องทำเครื่องดื่มร้อน ผ่านพิธีการศุลกากร บริษัทฯ จึงชำระค่าอากรเพียงร้อยละ 1 และวางประกันต่อกรมศุลกากรอีกร้อยละ 29 โดยที่ผ่านมากรมศุลกากรจะแจ้งผลการพิจารณาพิกัดอัตราอากรภายในระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี หลังจากวางประกันซึ่งอาจไม่ใช่รอบระยะเวลาบัญชีที่บริษัทฯ ได้นำเข้าเครื่องทำเครื่องดื่มร้อนดังกล่าว บริษัทฯ จึงขอทราบว่า การปฏิบัติดังต่อไปนี้ถูกต้องหรือไม่
1. กรณีได้รับแจ้งผลการพิจารณาพิกัดอัตราอากรในการนำเข้าเครื่องทำเครื่องดื่มร้อนว่าเป็นสินค้าในพิกัดอัตราอากรร้อยละ 30 ในรอบระยะเวลาบัญชีที่นำเข้า บริษัทฯ จะต้องนำค่าอากรที่ชำระเพิ่มเติมถือเป็นต้นทุนสินค้าในรอบระยะเวลาบัญชีที่นำเข้า
2. กรณีได้รับแจ้งผลการพิจารณาพิกัดอัตราอากรในการนำเข้าเครื่องทำเครื่องดื่มร้อนว่าเป็นสินค้าในพิกัดอัตราอากรร้อยละ 30 ในรอบระยะเวลาบัญชีอื่นที่ไม่ใช่รอบระยะเวลาบัญชีที่นำเข้า บริษัทฯ ต้องนำค่าอากรที่ชำระเพิ่มเติม ถือเป็นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีที่ทราบผลการพิจารณาจากกรมศุลกากร
1. กรณีตาม 1 ในขณะนำเข้าสินค้า บริษัทฯ ชำระค่าอากรขาเข้าในอัตราร้อยละ 1และวางประกันต่อกรมศุลกากรอีกร้อยละ 29 เนื่องจาก ยังไม่ทราบจำนวนค่าอากรที่แน่นอนกรณีบริษัทฯได้รับทราบจากกรมศุลกากรให้ชำระค่าอากรเพิ่มเติมในรอบระยะเวลาบัญชีที่นำเข้าสินค้า บริษัทฯมีสิทธินำค่าอากรที่ชำระเพิ่มไปรวมเป็นต้นทุนสินค้าในการคำนวณกำไรสุทธิสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่นำเข้าสินค้านั้น
2. กรณีตาม 2 หากบริษัทฯ ได้รับทราบจำนวนอากรขาเข้าที่ต้องชำระเพิ่มเติมในรอบระยะเวลาบัญชีที่ไม่ใช่รอบระยะเวลาบัญชีที่นำเข้าสินค้า บริษัทฯมีสิทธินำค่าอากรที่ต้องชำระเพิ่มเติมไปถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีที่จ่ายได้ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (6) และ (9) แห่งประมวลรัษฎากร