กค 0706/9404
17 กันยายน 2550
มาตรา 47(7)(ก)(ข) และมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร
70/35320
กระทรวงฯ ได้จัดตั้งกองทุนยุติธรรม พ.ศ.2549ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้มีการสนับสนุนเงินหรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมการส่งเสริมสนับสนุนให้การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเป็นไปด้วยความเสมอภาค เป็นธรรม และสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ง่ายขึ้นโดยการบริหารกองทุนยุติธรรมดำเนินการโดย "คณะกรรมการบริหารกองทุนยุติธรรม" ซึ่งมีปลัดกระทรวงฯเป็นประธานกรรมการรองปลัดกระทรวงฯ ที่ได้รับมอบหมายเป็นรองประธานกรรมการและผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรมเป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเป็นกรรมการรายรับของกองทุนส่วนหนึ่งได้มาจากเงินอุดหนุนจากภาคเอกชนหรือองค์กรอื่น และเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้เพื่อเป็นการสนับสนุนและจูงใจให้ประชาชน ภาคเอกชน หรือองค์กรอื่นเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการงานกองทุนยุติธรรมเพิ่มมากขึ้นจึงขอให้ผู้มีเงินได้ที่ได้นำเงินมาบริจาคหรืออุดหนุนให้กับกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรมมีสิทธินำหลักฐานการรับเงินจากกองทุนยุติธรรมดังกล่าวมาหักลดหย่อนก่อนคำนวณเสียภาษี
กองทุนยุติธรรม พ.ศ.2549 ดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็นสถานพยาบาลและสถานศึกษาของทางราชการ ตามมาตรา 47(7)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร และไม่เข้าลักษณะเป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศลหรือสถานพยาบาลและสถานศึกษาอื่น ตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาประกาศกำหนดองค์กร สถานสาธารณกุศลสถานพยาบาลและสถานศึกษาอื่น ตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา 3(4)(ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ.2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 254) พ.ศ.2535 ลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2535ดังนั้น
1. กรณีบุคคลธรรมดาบริจาคเงินสนับสนุนให้แก่กองทุนยุติธรรม พ.ศ.2549เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมการส่งเสริมสนับสนุนให้การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนให้เป็นไปด้วยความเสมอภาคและเป็นธรรม และสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ง่ายขึ้นบุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินไม่มีสิทธิที่จะนำใบเสร็จรับเงินที่ได้รับจากกองทุนยุติธรรมมาใช้เป็นหลักฐานในการหักลดหย่อนภาษีเงินได้ ตามมาตรา47(7)(ก) และ (ข) แห่งประมวลรัษฎากร
2. กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลบริจาคเงินสนับสนุนให้แก่กองทุนยุติธรรมพ.ศ.2549 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวไม่มีสิทธินำเงินบริจาคมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่งประมวลรัษฎากร