views

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีพนักงานได้รับจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้น

วันที่: 12 กันยายน 2550
เลขที่หนังสือ

กค 0706/9199

วันที่

12 กันยายน 2550

ข้อกฎหมาย

มาตรา 40(1) และมาตรา 42(17) แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

70/35297

ข้อหารือ

        บริษัทฯ หารือเกี่ยวกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีบริษัทฯมีโครงการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นให้แก่พนักงาน สรุปข้อเท็จจริงได้ ดังนี้

        1. บริษัทฯ มีความประสงค์จะทำการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯให้กับพนักงานของบริษัทฯ หรือพนักงานของบริษัทย่อยเพื่อเพิ่มแรงจูงใจและรักษาไว้ซึ่งพนักงานในระยะยาว โดยพนักงานจะได้รับการจัดสรรตามความเหมาะสม ซึ่งพิจารณาจากตำแหน่งหน้าที่งาน ความรับผิดชอบ อายุงานประสบการณ์ และผลประโยชน์ที่จะนำมาสู่บริษัทฯ

        2. ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว ไม่มีการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป และมีอายุ 3 ปีโดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยต่อ 1 หุ้นสามัญ ราคาการใช้สิทธิ 1 บาทต่อหุ้น ไม่มีราคาเสนอขายและเป็นใบสำคัญแสดงสิทธิที่สามารถระบุชื่อและเปลี่ยนมือได้

        3. เมื่อบริษัทฯ จัดสรรสิทธิในการซื้อหุ้นเสร็จสิ้น บริษัทฯจะดำเนินการออกใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่พนักงาน โดยกรรมสิทธิ์ในใบสำคัญแสดงสิทธิจะโอนเป็นของพนักงานในทันทีที่บริษัทฯส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่พนักงาน แต่มีเงื่อนไขว่าพนักงานแต่ละราย จะสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นของบริษัทฯได้ตามอัตราร้อยละที่กำหนดในแต่ละปี

        หลังจากนั้น บริษัทฯ จะดำเนินการจดทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหากพนักงานที่ได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิรายใดมีความจำเป็นทางด้านการเงินหรือประสงค์จะลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาใบสำคัญแสดงสิทธิหรือราคาหุ้นของบริษัทฯพนักงานก็อาจเลือกขายใบสำคัญแสดงสิทธิในตลาดหลักทรัพย์ได้ ทั้งนี้วันที่ใบสำคัญแสดงสิทธิจะเข้าซื้อขายในฐานะ "หลักทรัพย์จดทะเบียน" จะขึ้นอยู่กับวันที่ตลาดหลักทรัพย์อนุมัติ ซึ่งจะเกิดขึ้นภายหลังจากวันที่บริษัทฯจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิเสร็จสิ้นแล้ว

        อนึ่ง ในปัจจุบัน บริษัทฯ มีใบสำคัญแสดงสิทธิที่เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทั่วไปและเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู่แล้ว โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 0.91 บาท ณวันที่ 1 มิถุนายน 2550

        4. บริษัทฯ ได้หารือว่า

            4.1 ในกรณีที่บริษัทฯ โอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่พนักงานนั้นเนื่องจากใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว ไม่มีการเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปและยังไม่อาจหาราคาตลาดได้ดังนั้น บริษัทฯ จะใช้ราคาเฉลี่ยของใบสำคัญแสดงสิทธิที่บริษัทฯออกขายให้ผู้ถือหุ้นและเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนอยู่แล้วในวันที่โอนกรรมสิทธิ์ เป็นราคาของใบสำคัญแสดงสิทธิของพนักงาน โดยถือว่าราคาดังกล่าวเป็นเงินได้ของพนักงานที่ต้องนำมารวมเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร และบริษัทฯ ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา50(1) แห่งประมวลรัษฎากรถูกต้องหรือไม่

            4.2 ในกรณีที่พนักงานขายใบสำคัญแสดงสิทธิในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเงินได้จากการขายใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 42(17)แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2(23) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509 ถูกต้องหรือไม่

            4.3 ในกรณีที่พนักงานใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อแลกเป็นหุ้นสามัญ บริษัทฯจะต้องคำนวณเงินได้ของพนักงาน โดยใช้ราคาเฉลี่ยของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ในเดือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์ในหุ้นหักด้วยราคาการใช้สิทธิ (1 บาทต่อหน่วย) และราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ (เช่น 0.91 บาทหากพนักงานได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 1 มิถุนายน 2550) ตามนัยคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ 28/2538 เรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการเสียภาษีในกรณีได้รับแจกหุ้นหรือได้ซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดตามข้อตกลงพิเศษ ลงวันที่ 7กุมภาพันธ์ 2538 ถูกต้องหรือไม่

แนววินิจฉัย


        1. กรณีใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นของพนักงานนั้น สามารถโอนเปลี่ยนมือได้และโดยที่บริษัทฯ มีใบสำคัญแสดงสิทธิที่ขายให้กับผู้ถือหุ้นและเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้วดังนั้น กรณีที่บริษัทฯ จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่พนักงานจึงถือได้ว่าในวันที่พนักงานได้รับกรรมสิทธิ์ในใบสำคัญแสดงสิทธิ พนักงานได้รับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากรโดยให้ใช้ราคาเฉลี่ยของใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเดือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์ (เช่น 0.91 บาทหากพนักงานได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 1 มิถุนายน 2550) เป็นเงินได้ของพนักงานดังกล่าว และบริษัทฯมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร

        2. กรณีที่พนักงานขายใบสำคัญแสดงสิทธิในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายหลังจากที่บริษัทฯ จดทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนแล้ว เงินได้จากการขายใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 42(17) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2(23) แห่งกฎกระทรวงฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509

        3. ในกรณีที่พนักงานนำใบสำคัญแสดงสิทธิมาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯในราคาต่ำกว่าราคาตลาด ถือว่าพนักงานได้รับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร จากบริษัทฯโดยจำนวนเงินได้พึงประเมินนั้น ให้ใช้ราคาเฉลี่ยของหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์ในเดือนที่ใช้สิทธิ หักด้วยราคาการใช้สิทธิ (1บาทต่อหน่วย) และราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ (เช่น 0.91 บาท หากพนักงานได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิในวันที่ 1 มิถุนายน 2550)ทั้งนี้ ตามนัยคำวินิจฉัยคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่ 28/2538ฯ ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538