views

ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการปล่อยของออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บนและการรับของ ตามมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2543

วันที่: 30 กันยายน 2546
เลขที่หนังสือ

กค 0706/พ./9832

วันที่

30 กันยายน 2546

ข้อกฎหมาย

มาตรา 77/1(14), มาตรา 80/1(1), มาตรา 77/1(12), มาตรา 80/1(6)

เลขตู้

66/32686

ข้อหารือ

     กรณีการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการปล่อยของออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บน และการรับของ
ดังกล่าว ตามมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 6 แห่ง
พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2543 โดยมีข้อเท็จจริงว่า เนื่องจากเดิม ผู้ประกอบการ
คลังสินค้าทัณฑ์บนที่มีการจำหน่ายหรือโอนสินค้าในประเทศได้มีการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มโดยวิธีการยื่นแบบ
ภ.พ.30 ต่อมาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 88 วรรคสาม และวรรคสี่ แห่ง พระราชบัญญัติศุลกากร
พ.ศ. 2469 โดยพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2543 กำหนดให้การปล่อยของออกไปจาก
คลังสินค้าทัณฑ์บน หากเป็นการโอนเข้าไปในคลังสินค้าทัณฑ์บนอื่น หรือจำหน่ายให้แก่ผู้นำของเข้าตาม
มาตรา 19 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 หรือผู้มีสิทธิได้รับยกเว้นอากรตาม
กฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากรหรือกฎหมายอื่น ๆ ให้ถือว่าเป็นการส่งออกนอกราชอาณาจักรในเวลาที่
ปล่อยของเช่นว่านั้นออกไปจากคลังสินค้าทัณฑ์บนโดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด และให้การรับ
ของที่โอนหรือจำหน่ายดังกล่าว ถือว่าเป็นการนำเข้ามาในราชอาณาจักรหรือนำเข้าสำเร็จในเวลาที่
ปล่อยของเช่นว่านั้นออกไปจากคลังสินค้าทัณฑ์บน โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด ซึ่ง
กรมศุลกากรจะกำหนดระเบียบปฏิบัติโดยกำหนดให้ผู้ประกอบการคลังสินค้าทัณฑ์บนที่ประสงค์จะโอนของ
ออกโดยใช้สิทธิตามมาตรา 88 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ยื่นใบขนสินค้าขาออกและผู้รับโอน
ของดังกล่าวตามมาตรา 88 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว จัดทำใบขนสินค้าขาเข้า จึงหารือว่า
     1. คลังสินค้าทัณฑ์บน ผู้จำหน่ายหรือโอนสินค้าโดยจัดทำใบขนสินค้าขาออกและใช้สิทธิตาม
มาตรา 88 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 6 แห่ง
พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2543 สามารถใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 0 ใน
การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการส่งออกตามประมวลรัษฎากร ได้หรือไม่
     2. ผู้รับโอนของจากคลังสินค้าทัณฑ์บนดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการนำเข้ามาในราชอาณาจักร และ
จัดทำใบขนสินค้าขาเข้าต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไร
     3. ผู้โอนและผู้รับโอนในกรณีดังกล่าวต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 ในกรณีนี้อีกครั้งหรือไม่

แนววินิจฉัย

     1. กรณีคลังสินค้าทัณฑ์บน ผู้จำหน่ายหรือโอนสินค้าโดยจัดทำใบขนสินค้าขาออกและใช้สิทธิ
ตามมาตรา 88 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 6
แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2543 ไม่เข้าลักษณะเป็นการส่งออกตามมาตรา
77/1(14) แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่ได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา
80/1(1) แห่งประมวลรัษฎากร
     อย่างไรก็ดี การขายสินค้าระหว่างคลังสินค้าทัณฑ์บนกับคลังสินค้าทัณฑ์บนจะได้รับสิทธิเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1(6) แห่งประมวลรัษฎากร โดยจะต้องปฏิบัติตาม
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 123)
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขายสินค้าหรือการให้บริการบางกรณี ตาม
มาตรา 80/1(6) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2545
     2. การรับโอนสินค้าจากคลังสินค้าทัณฑ์บนตาม 1. ไม่เข้าลักษณะเป็นการนำเข้าตามมาตรา
77/1(12) แห่งประมวลรัษฎากร แต่ถือเป็นการซื้อขายสินค้าในราชอาณาจักรซึ่งอยู่ในบังคับต้องเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2(1) แห่งประมวลรัษฎากร
     3. ผู้โอนและผู้รับโอนตาม 1. และ 2. ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมี
หน้าที่ต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 เป็นรายเดือนภาษีตามมาตรา 83 แห่งประมวลรัษฎากร