กค 0811/14736
27 ตุลาคม 2540
ประเด็นปัญหา
60/25990
บริษัทฯ ได้ปฏิบัติเกี่ยวกับการบันทึกบัญชี ดังนี้
1. เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการชำระเงินแก่เจ้าหนี้ของบริษัทฯ บริษัทฯ จึงใช้
วิธีการชำระเงินโดยการโอนเงินผ่านธนาคารในการชำระหนี้ และเมื่อทางธนาคารโอนเงินจากบัญชีของ
บริษัทฯ ให้เจ้าหนี้ของบริษัทฯ เรียบร้อยแล้ว ก็จะส่งเอกสารแสดงการตัดบัญชีของบริษัทฯ (Debit
Advice) มาให้ เนื่องจากเจ้าหนี้ของบริษัทฯ มีทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับบริษัทฯ มักจะไม่ได้
รับเอกสารจากเจ้าหนี้ตรงตามรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัทฯ ในแต่ละเดือน กรณีดังกล่าว บริษัทฯ
สามารถใช้เอกสารที่ได้รับจากธนาคารเป็นหลักฐานในการบันทึกบัญชีได้หรือไม่
2. บริษัทฯ ประกอบกิจการขายสินค้าเป็นโครงการ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องมือ
แพทย์ เป็นต้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการ ดังนี้
2.1 เมื่อบริษัทฯ ทำสัญญาขายและติดตั้งให้กับลูกค้าแล้ว บริษัทฯ ก็จะทยอย
ส่งมอบสินค้าและดำเนินการติดตั้งให้กับลูกค้าตามสัญญา เมื่อบริษัทฯ ส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า บริษัทฯ ก็
จะออกใบกำกับภาษีให้กับลูกค้าทันทีที่ส่งมอบ และนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
2.2 เมื่อสิ้นปี ตามรอบบัญชี บริษัทฯ จะใช้เกณฑ์สิทธิในการบันทึกรายได้และรายจ่าย
โดยที่ในวันสิ้นปีบริษัทฯ จะ Cut off งานแต่ละ Project โดย Matching ระหว่างต้นทุนและรายได้
ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อรับรู้รายได้ประจำปี ซึ่งผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ จะเป็นผู้สอบทานความถูกต้อง
3. การบันทึกบัญชีของบริษัทฯ ดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือ
ภาษีอื่น ๆหรือไม่ อย่างไร และบริษัทฯ ควรปฏิบัติอย่างไรเกี่ยวกับการบันทึกรายการสินค้าคงเหลือกรณี
ขายเป็นโครงการและการรับรู้รายได้
1. กรณีบริษัทฯ ใช้วิธีการชำระเงินแก่เจ้าหนี้ทั้งในและต่างประเทศโดยการโอนเงินผ่าน
ธนาคารจากบัญชีของบริษัทฯ ให้เจ้าหนี้ของบริษัทฯ สามารถใช้เอกสารที่ได้รับจากธนาคารเป็นหลักฐาน
ในการบันทึกบัญชีได้
2. กรณีการขายสินค้าพร้อมให้บริการติดตั้ง พิจารณาได้ดังนี้
2.1 กรณีไม่มีการแยกรายการสินค้าและค่าบริการ ถือเป็นการขายสินค้าความรับผิดใน
การเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นเมื่อมีการส่งมอบสินค้า โอนกรรมสิทธิ์สินค้า ได้รับชำระราคาสินค้าหรือได้
ออกใบกำกับภาษี แล้วแต่การกระทำใดเกิดขึ้นก่อน ตามมาตรา 78(1) แห่งประมวลรัษฎากร
ผู้จ่ายเงินได้ค่าสินค้าไม่อยู่ในบังคับต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.
4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หัก
ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528
2.2 กรณีแยกราคาสินค้าและค่าบริการต่างหากจากกัน ราคาสินค้าที่แยกให้ถือเป็น
การขายสินค้าความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นไปตามข้อ 2.1 ส่วนค่าบริการที่แยกให้ถือเป็นการ
ให้บริการรับจ้างทำของความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นเมื่อได้รับชำระค่าบริการ เว้นแต่ ได้
ออกใบกำกับภาษีก่อนได้รับชำระค่าบริการ ก็ให้ถือว่าความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อได้มีการกระทำนั้น ๆ ตาม
มาตรา 78/1(1) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้จ่ายเงินได้ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 3.0
ของค่าบริการ ตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2530
3. การบันทึกบัญชีของบริษัทฯ สามารถใช้วิธีการทางบัญชีที่รับรองทั่วไปวิธีการใดก็ได้ แต่
ในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิ บริษัทฯ ต้องใช้เกณฑ์สิทธิในการคำนวณรายได้หักด้วย
รายจ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่ง
ประมวลรัษฎากร