กค 0706/10308
25 พฤศจิกายน 2545
พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 399) พ.ศ. 2545, ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545
65/32076
หารือกรมสรรพากร เกี่ยวกับการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร กรณีการปรับปรุง
โครงสร้างหนี้ โดยปรากฏข้อเท็จจริงดังนี้
1. บริษัทฯ เป็นลูกหนี้ของบริษัทเงินทุนฯ ตามสัญญากู้เงิน ฉบับลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2538
โดยมีหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยค้างชำระจำนวน 307,049,430.27 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม
2544 บริษัทเงินทุนฯ ให้บริษัทฯ และนาย อ. นาย ว. นาย ส. นาย พ. นางสาว ข. และบริษัท ช.
ผู้จำนองและผู้ค้ำประกัน ทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของ
สถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด โดยนำที่ดินหลักประกันจำนวน 101 โฉนด ซึ่ง
บริษัทฯ ผู้จำนองและผู้ค้ำประกันได้จำนองไว้ต่อ บริษัทเงินทุนฯ เพื่อประกันหนี้เงินกู้ดังกล่าวโอนขายให้
แก่บุคคลภายนอก เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายที่ดินซึ่งเป็นหลักประกันจำนวน 103 ล้านบาท ไปชำระหนี้
ให้แก่ บริษัทเงินทุนฯ ตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้
2. ต่อมาบริษัทฯ และผู้จำนองได้ตกลงขายที่ดินหลักประกันทั้งหมดให้กับบุคคลภายนอกเพื่อ
ชำระหนี้ให้แก่ บริษัทเงินทุนฯ โดยสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ กำหนดให้ผ่อนชำระหนี้เป็นงวด ๆ เมื่อ
ชำระหนี้จำนวน 70 ล้านบาท บริษัทเงินทุนฯ จะยอมให้ไถ่ถอนจำนองที่ดินหลักประกันบางส่วนไป
โอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อ และเมื่อชำระหนี้จนครบจำนวน 103 ล้านบาทแล้ว จะยอมให้ไถ่ถอนจำนองที่ดิน
หลักประกันที่เหลือทั้งหมดไปโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อ กรณีดังกล่าว บริษัทฯ ได้ตกลงให้ผู้ซื้อนำราคาที่ดินที่
ต้องชำระแก่บริษัทฯ ไปชำระให้แก่ บริษัทเงินทุนฯ เป็นงวดโดยตรง ซึ่งตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ผู้ซื้อจะต้องชำระราคาที่ดินจำนวน 103 ล้านบาทให้แล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2545 อย่างไรก็ตาม
ผู้ซื้อได้ชำระราคาที่ดินให้แก่ บริษัทเงินทุนฯ จนครบจำนวน 103 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2545
ซึ่งเป็นการชำระก่อนกำหนดเวลา
3. เนื่องจากการชำระราคาที่ดินได้แบ่งชำระเป็นงวด ๆ ประกอบกับที่ดินที่ตกลงให้นำออก
ขายเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่ บริษัทเงินทุนฯ มีอยู่จำนวนมาก บริษัทเงินทุนฯ จึงไม่สามารถออก
หนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพย์ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 399) พ.ศ. 2545 ให้แก่ผู้ซื้อทันที
ในวันที่มีการชำระราคาที่ดินแต่ละงวด และเมื่อผู้ซื้อได้ชำระราคาที่ดินจนครบถ้วนจำนวน 103 ล้านบาท
ในวันที่ 5 สิงหาคม 2545 แล้ว บริษัทเงินทุนฯ จึงได้ออกหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพย์ โดย
ลงวันที่ตามวันที่ผู้ซื้อชำระราคาที่ดินครบถ้วน
4. โดยที่ตามข้อ 5 ของหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพย์ ได้ระบุข้อความว่า "และใน
วันที่ทำหนังสือฉบับนี้ ลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระอยู่กับเจ้าหนี้จำนวน.....บาท" กรณีดังกล่าว เจ้าพนักงานที่ดิน
กรุงเทพมหานคร สาขาหนองจอก มีความเห็นว่า ข้อความที่ระบุในหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพย์
มีข้อความไม่ตรงกับข้อความตามที่แนบท้ายประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับจำนวนเงินที่ได้รับจาก
การโอนอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่นำมาจำนองเป็นประกันหนี้ของเจ้าหนี้ที่เป็น
สถาบันการเงินให้แก่ผู้อื่นซึ่งมิใช่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน เพื่อนำไปชำระหนี้ที่ค้างชำระแก่เจ้าหนี้ที่
เป็นสถาบันการเงิน ซึ่งได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของ
สถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนดลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2545 ซึ่งระบุว่า
"และในขณะที่ทำสัญญาโอนอสังหาริมทรัพย์ตามหนังสือรับรองฉบับนี้ ลูกหนี้มีหนี้คงค้างชำระอยู่กับเจ้าหนี้
จำนวน.....บาท" บริษัทฯ จึงไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีอากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 399)
พ.ศ. 2545 แต่อย่างใด บริษัทฯ จึงหารือว่า
4.1 การโอนอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ และผู้จำนอง ให้แก่ผู้ซื้อ โดยผู้ซื้อได้ชำระราคา
ที่ดินให้ บริษัทเงินทุนฯ ไปก่อนวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีอากรตาม
พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 399) พ.ศ. 2545 หรือไม่
4.2 ข้อความที่ระบุในข้อ 5 ของหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งออกโดย
บริษัทเงินทุนฯ สามารถใช้เป็นหลักฐานในการจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทาง
ภาษีอากรได้หรือไม่ หากข้อความในหนังสือดังกล่าวไม่ถูกต้อง บริษัทเงินทุนฯจะต้องออกหนังสือข้อความ
อย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและถูกต้องเพื่อสามารถใช้เป็นหลักฐานในการขอรับสิทธิยกเว้น
ภาษีอากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ ฉบับดังกล่าวได้
1. กรณีตาม 4.1 บริษัทฯ ผู้จำนอง และผู้ค้ำประกัน ได้ตกลงขายที่ดินซึ่งจำนองเป็น
หลักประกันหนี้ของ บริษัทเงินทุนฯ เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงินอยู่ก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543
ให้แก่ผู้ซื้อซึ่งเป็นบุคคลภายนอก โดยผู้ซื้อตกลงชำระราคาที่ดินให้แก่ บริษัทเงินทุนฯ ตามสัญญาปรับปรุง
โครงสร้างหนี้ซึ่งดำเนินการตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่
ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด กรณีดังกล่าว หากบริษัทฯ โอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่จำนองเป็น
ประกันให้แก่ผู้ซื้อในระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2545 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2545 บริษัทฯ
ย่อมได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับเงินได้ที่ได้จากการโอน
อสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้ซื้อซึ่งมิใช่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน และสำหรับการกระทำตราสารอัน
เนื่องมาจากการโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ทั้งนี้ เฉพาะส่วนที่ไม่เกินกว่าหนี้ที่ค้างชำระอยู่กับ
สถาบันการเงินหรือมีภาระผูกพันตามสัญญาประกันหนี้กับสถาบันการเงินตามมาตรา 8 แห่ง
พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 399) พ.ศ. 2545 ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนด
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำหรับ
จำนวนเงินที่ได้รับจากการโอนอสังหาริมทรัพย์ของลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่นำมาจำนองเป็นประกันหนี้
ของเจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงินให้แก่ผู้อื่นซึ่งมิใช่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน เพื่อนำไปชำระหนี้ที่
ค้างชำระแก่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน ซึ่งได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตาม หลักเกณฑ์
การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด ลงวันที่ 15
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545
2. กรณีตาม 4.2 แม้ว่า ตามข้อ 5 ของหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพย์ ที่ออกโดย
บริษัทเงินทุนฯ ใช้ข้อความว่า "และในวันที่ทำหนังสือฉบับนี้ ลูกหนี้มีหนี้ค้างชำระอยู่กับเจ้าหนี้จำนวน...
บาท" โดยข้อความดังกล่าวแตกต่างจากข้อความตามวรรคสองของข้อ 5 ของแบบแนบท้าย
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 ซึ่งใช้ข้อความว่า "และในขณะที่ทำ
สัญญาโอนอสังหาริมทรัพย์ตามหนังสือรับรองฉบับนี้ ลูกหนี้มีหนี้คงค้างชำระอยู่กับเจ้าหนี้จำนวน.....บาท
" กรณีดังกล่าวไม่ทำให้สาระสำคัญของการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (
ฉบับที่ 399) พ.ศ. 2545 เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด บริษัทฯ จึงสามารถใช้หนังสือรับรองการโอน
อสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทเงินทุนฯ ออกให้เป็นหลักฐานเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตาม
พระราชกฤษฎีกาฯ ฉบับดังกล่าวได้