กค 0706/10486
29 พฤศจิกายน 2545
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 37)ฯ, มาตรา 103(1), มาตรา 113
65/32080
ธนาคารฯ ได้หารือ กรมสรรพากรกรณีประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์
(ฉบับที่ 37) เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับตราสารบาง
ลักษณะ ลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2538 โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. กรณีที่ธนาคารฯ ออกหนังสือค้ำประกัน ให้กับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และบุคคลทั่วไป
เพื่อค้ำประกันความรับผิดชอบต่างๆ ของลูกค้าธนาคารฯ ธนาคารฯ จะชำระอากรอย่างไร
2. กรณีบุคคลภายนอกมาทำสัญญาค้ำประกันลูกหนี้ของธนาคารฯ ในการรับชำระหนี้แทนลูกหนี้
หากลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้คืนธนาคารฯ ได้ ผู้ค้ำประกันจะชำระอากรอย่างไร
1. กรณีที่ธนาคารฯ ออกหนังสือค้ำประกันให้กับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และบุคคลทั่วไป
เข้าลักษณะเป็นการค้ำประกันตามมาตรา 680 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และตามลักษณะแห่ง
ตราสาร 17. ค้ำประกัน แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ เป็นกรณีที่คู่สัญญามิได้เป็นสถาบันการเงิน ธนาคาร
ฯ จึงไม่มีสิทธิชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดแสตมป์สำหรับตราสารค้ำประกันตามข้อ 2(9) ของ
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับอากรแสตมป์ (ฉบับที่ 37) เรื่อง กำหนดวิธีการชำระอากรเป็น
ตัวเงินแทนการปิดแสตมป์อากรสำหรับตราสารบางลักษณะ ลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2538 ดังนั้น
ธนาคารฯ จึงต้องชำระอากรแสตมป์โดยวิธีปิดแสตมป์ทับลงบนตราสารตามมาตรา 103(1) แห่ง
ประมวลรัษฎากร หรือยื่นตราสารต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อขอเสียอากรตามมาตรา 113 แห่ง
ประมวลรัษฎากร
2. กรณีบุคคลภายนอกทำสัญญาค้ำประกันลูกหนี้ของธนาคารฯ ในการรับชำระหนี้แทนลูกหนี้
หากลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้คืนธนาคารฯ หนังสือสัญญาค้ำประกันดังกล่าว เข้าลักษณะแห่งตราสาร 17.
ค้ำประกัน แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ และเป็นกรณีที่ธนาคารฯ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินเป็นคู่สัญญา
ผู้ค้ำประกันซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและเป็นผู้ต้องเสียอากรแสตมป์ จึงต้องชำระอากรเป็นตัวเงินแทนการ
ปิดแสตมป์สำหรับตราสารค้ำประกัน ตามข้อ 2(9) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับ
อากรแสตมป์ (ฉบับที่ 37)ฯ ลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2538 โดยถือปฏิบัติตามข้อ 3(9) ของ
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ฉบับดังกล่าว