views

อากรแสตมป์ กรณีการเช่าเวลาเพื่อออกอากาศรายการหรือเพื่อออกอากาศโฆษณา

วันที่: 11 ธันวาคม 2550
เลขที่หนังสือ

กค 0706/12106

วันที่

11 ธันวาคม 2550

ข้อกฎหมาย

มาตรา 103 แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

70/35503

ข้อหารือ

          ก. ได้ส่งสัญญาเช่าเวลาเพื่อออกอากาศรายการและสัญญาเช่าเวลาเพื่อออกอากาศโฆษณา มาเพื่อประกอบการหารือเกี่ยวกับการติดอากรแสตมป์ ดังนี้

          1. สัญญาเช่าเวลาทั้งสองฉบับต้องเสียค่าอากรแสตมป์หรือไม่ หากต้องเสียจะเสียในอัตราเท่าใด และคำนวณจากยอดเงินใด

          2. การเสียค่าอากรแสตมป์ตาม 1. กฎหมายกำหนดให้คู่สัญญาฝ่ายใดเป็นผู้ปิดอากรแสตมป์

          3. การชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินแทนการปิดอากรแสตมป์ ต้องเริ่มตั้งแต่จำนวนเงินเท่าใด มีข้อกำหนดของกฎหมายหรือไม่ อย่างไร

          4. กรณีที่ปิดอากรแสตมป์หรือเสียอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดอากรแสตมป์ในสัญญาแล้วหากทราบภายหลังว่า สัญญาดังกล่าวไม่มีภาระต้องเสียค่าอากรแสตมป์หรือชำระอากรเป็นตัวเงินสามารถขอเงินคืนจากกรมสรรพากรได้หรือไม่ มีกำหนดเวลาในการขอคืนหรือไม่และต้องปฏิบัติอย่างไร

แนววินิจฉัย

          1. กรณีตาม 1-3 หากข้อตกลงในสัญญาเช่าเวลาเพื่อออกอากาศรายการและสัญญาเช่าเวลาเพื่อออกอากาศโฆษณา กับบุคคลภายนอกทั้งสองฉบับมีข้อตกลงให้ผู้ให้เช่าต้องเป็นผู้ดำเนินการแพร่ภาพออกอากาศรายการ หรือแพร่ภาพออกอากาศโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าต่างๆ ของผู้เช่าทางสถานีของผู้ให้เช่าเองตามเวลาที่กำหนดในสัญญาจนสำเร็จ และผู้เช่าตกลงจ่ายค่าตอบแทนเพื่อการแพร่ภาพออกอากาศที่เป็นผลสำเร็จจากการทำงานของผู้ให้เช่าสัญญาดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นสัญญารับจ้างทำของตามมาตรา 587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต้องเสียค่าอากรแสตมป์ 1 บาท ต่อจำนวนเงินตามสัญญา 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท แห่งสินจ้างที่กำหนดไว้ในสัญญาทั้งสองฉบับดังกล่าว ตามลักษณะแห่งตราสาร 4. แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ โดยผู้รับจ้างซึ่งได้แก่ผู้ให้เช่าตามสัญญาทั้งสองฉบับดังกล่าวมีหน้าที่ต้องเสียอากร เว้นแต่ผู้รับจ้างได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียอากรแสตมป์ตามกฎหมาย

          2. กรณีตาม 4 ผู้ใดปิดอากรแสตมป์หรือเสียอากรเป็นตัวเงินแทนการปิดอากรแสตมป์ในสัญญาแล้ว หากภายหลังสัญญาดังกล่าวมิใช่การกระทำตราสารที่อยู่ในบังคับต้องเสียอากรแสตมป์ตามมาตรา 103 แห่งประมวลรัษฎากร เข้าลักษณะ เป็นการเสียอากรโดยไม่มีหน้าที่ต้องเสีย ผู้นั้นมีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนค่าอากรได้ภายใน 10 ปี นับแต่วันเสียอากร ตามมาตรา 193/30 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์