กค 0811/พ.16786
12 ธันวาคม 2540
ประเด็นปัญหา
60/26196
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จ้างบริษัทฯ ซึ่งจดทะเบียนเป็น
นิติบุคคลตามกฎหมายของต่างประเทศ และไม่มีสาขาในประเทศไทย ให้ทำการศึกษาเปรียบเทียบทาง
เลือกที่ตั้งท่าเรือน้ำลึกตามแผนงานพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ มีกำหนดระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่
เดือนพฤศจิกายน 2539 ถึงเดือนมีนาคม 2540 และต่อมาได้ขอขยายเวลาการศึกษาโครงการออกไปถึง
เดือนพฤษภาคม 2540 โดยใช้งบประมาณกลางปี 2539 และปัจจุบันโครงการดังกล่าวสิ้นสุดแล้ว สศช.
จะจ่ายเงินค่าจ้างบริษัทดังกล่าว จึงหารือว่า
1. สศช. ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มในการจ่ายเงินดังกล่าวหรือไม่
2. สศช. ต้องหักภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย หรือไม่
1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม
บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักร ซึ่งได้เข้ามาประกอบกิจการ
ให้บริการในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นการชั่วคราวตาม
มาตรา 85/3 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อมีการชำระราคาค่าบริการให้กับผู้ประกอบการ ผู้จ่ายค่าบริการ
มีหน้าที่นำส่งเงินภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการมีหน้าที่เสีย ตามมาตรา 83/6(1) แห่งประมวลรัษฎากร
โดยยื่นแบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.36) ภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงินให้แก่
บริษัท ทั้งนี้ ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ขยายกำหนดเวลาการนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
การนำส่งเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม และการยื่นรายการ ลงวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2535
2. ภาษีเงินได้
เงินได้จากการรับทำการศึกษาเปรียบเทียบทางเลือกที่ตั้งท่าเรือน้ำลึกตามแผนพัฒนา
พื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ของบริษัทฯ เข้าลักษณะเป็นกำไรจากธุรกิจตามข้อ 7 แห่งความตกลงระหว่าง
ราชอาณาจักรไทยกับเบลเยี่ยม เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ แต่
การศึกษาเปรียบเทียบทางเลือกที่ตั้งท่าเรือน้ำลึกดังกล่าว บริษัทฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาปฏิบัติงานใน
ประเทศไทย โดยใช้สถานที่ของ สพต. เกินกว่า 6 เดือน จึงถือได้ว่าบริษัทฯ มีสถานธุรกิจประจำซึ่งใช้
ประกอบธุรกิจทั้งหมดหรือบางส่วน เข้าลักษณะเป็นสถานประกอบการถาวรตามข้อ 5 วรรคหนึ่ง แห่ง
อนุสัญญาฯ เมื่อ สศช. จ่ายเงินให้บริษัทฯ สศช.ต้องหักภาษีเงินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ
1 ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร