views

ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณียื่นแบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.36) ก่อนการชำระค่าสินค้าหรือ ค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการนอกราชอาณาจักร

เลขที่หนังสือ

กค 0706/พ./10129

วันที่

-

ข้อกฎหมาย

มาตรา 83/6 มาตรา 78/1 มาตรา 84/1 และมาตรา 9 แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

-

ข้อหารือ

      บริษัท ก. จำกัด ได้จ่ายเงินได้ประเภทค่าสิทธิให้แก่บริษัท A ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตาม
กฎหมายของประเทศออสเตรเลีย มิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย บริษัทฯ ได้ยื่นแบบ ภ.พ.36
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2549 โดยบริษัทฯ ระบุวัน เดือน ปี ที่จ่ายเงินในแบบ ภ.พ.36 เป็นวันที่ 21 มีนาคม
2549 แต่วันที่ที่บริษัทฯ ได้โอนเงินเพื่อชำระค่าสิทธิดังกล่าว คือ วันที่ 5 มิถุนายน 2549 การยื่นแบบ
ภ.พ.36 ของบริษัทฯ นั้น เป็นการยื่นแบบฯ ไว้ก่อนที่บริษัทฯ ได้ชำระราคาสินค้าหรือค่าบริการให้กับ
บริษัทในต่างประเทศ โดยได้ระบุวัน เดือน ปี ที่จ่ายเงินตามใบเสร็จรับเงินที่เรียกเก็บโดยบริษัทฯ ใน
ต่างประเทศ และบริษัทฯ ได้นำรายการดังกล่าวไปถือเป็นยอดซื้อ และภาษีซื้อสำหรับการยื่นแบบ
ภ.พ.30 ในเดือนภาษีมีนาคม 2549 จึงขอทราบว่า

      1. การยื่นแบบ ภ.พ.36 เพื่อนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มก่อนที่บริษัทฯ จะชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการ
ให้กับผู้ประกอบการที่เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว หรือให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการ
ในต่างประเทศและได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร หรือให้แก่ผู้ประกอบการอื่นที่กำหนดโดย
พระราชกฤษฎีกา ตามมาตรา 83/6 แห่งประมวลรัษฎากร ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

      2. บริษัทฯ มีสิทธินำภาษีมูลค่าเพิ่มที่ได้นำส่งตามแบบ ภ.พ.36 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2549 ตาม
ใบเสร็จรับเงินที่กรมสรรพากรออกให้ไปใช้เป็นภาษีซื้อในการคำนวณเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตาม
แบบ ภ.พ.30 เดือนภาษีมีนาคม 2549 ได้หรือไม่ หากไม่ได้ บริษัทฯ จะต้องยื่นคำร้องขอคืนภาษีในเดือน
ภาษีมีนาคม 2549 และต้องยื่นแบบ ภ.พ.36 นำส่งภาษีเพื่อนำไปถือเป็นภาษีซื้อในแบบ ภ.พ.30 ของ
เดือนภาษีมิถุนายน 2549 หรือไม่อย่างไร

      3. อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างวันที่มีการโอนเงินจริง และวันที่ตามใบเสร็จรับเงินที่
บริษัทฯ ใช้ในการคำนวณเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทยในการยื่นแบบ ภ.พ.36 จะต้องใช้อัตรา
แลกเปลี่ยนเงินตรา ณ วันใด

แนววินิจฉัย

      1. กรณีบริษัทฯ จ่ายค่าสิทธิให้กับบริษัทในต่างประเทศตามข้อเท็จจริงข้างต้นเข้าลักษณะเป็น
การจ่ายค่าบริการให้กับผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการในต่างประเทศ และได้มีการใช้บริการนั้นใน
ราชอาณาจักร บริษัทฯ ผู้จ่ายเงินค่าบริการจึงมีหน้าที่ต้องนำส่งเงินภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 83/6(2)
แห่งประมวลรัษฎากร โดยต้องยื่นแบบ ภ.พ.36 ณ ที่ว่าการอำเภอภายในเจ็ดวันนับแต่วันสิ้นเดือน
ของเดือนที่จ่ายเงินได้ให้แก่ผู้ประกอบการในต่างประเทศตามมาตรา 83/6 วรรคสอง แห่งประมวล
รัษฎากร อย่างไรก็ดี เนื่องจากความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมดหรือบางส่วนของ
ผู้ประกอบการที่ให้บริการในต่างประเทศ และได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร จะเกิดขึ้น
เมื่อผู้รับบริการได้ชำระราคาค่าบริการทั้งหมดหรือบางส่วนตามาตรา 78/1(3) แห่งประมวลรัษฎากร
ฉะนั้น บริษัทฯ จึงไม่มีสิทธิยื่นแบบ ภ.พ.36 เพื่อนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มก่อนที่ความรับผิดในการเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มจะเกิดขึ้น

      2. การที่บริษัทฯ ยื่นแบบ ภ.พ.36 นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มไปตามข้อเท็จจริงข้างต้นถือว่า บริษัทฯ
นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มไปโดยไม่มีหน้าที่ต้องนำส่ง บริษัทฯ จึงต้องยื่นคำร้องขอคืนภาษีที่ได้นำส่งไป
ตามมาตรา 84/1 แห่งประมวลรัษฎากร และบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภ.พ.36 ใหม่ภายใน 7 วัน
นับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่บริษัทฯ ได้ชำระค่าสิทธิให้บริษัทในต่างประเทศจริง 3. กรณีอัตรา
แลกเปลี่ยน บริษัทฯ จะต้องใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามมาตรา 9 แห่งประมวลรัษฎากร ของวันที่ได้ทำการ
ชำระเงินค่าบริการจริงในการคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินบาท เพื่อใช้ในการ
คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องนำส่งให้แก่กรมสรรพากร