views

ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการขายสินค้าให้บริษัทในเขตอุตสาหกรรมส่งออก

วันที่: 28 ธันวาคม 2552
เลขที่หนังสือ

กค 0702/10778

วันที่

28 ธันวาคม 2552

ข้อกฎหมาย

มาตรา 77/1(14) และมาตรา 79(4) แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

72/37088

ข้อหารือ

          1. กรณีบริษัทฯ ซื้อสินค้าจาก บริษัท ม. โดยบริษัท ม. ได้สั่งซื้อสินค้าจาก บริษัท ช. (ประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นบริษัท ต่างประเทศ และบริษัทฯ ได้นำสินค้าที่สั่งซื้อดังกล่าวนั้นไปขายให้ บริษัท H จำกัด (จังหวัดอยุธยา) ซึ่งประกอบกิจการอยู่ใน เขตอุตสาหกรรมส่งออก โดยมีเงื่อนไขการส่งมอบสินค้าเป็น Ex works ตามประกาศกรมศุลกากรที่ 61/2546 เงื่อนไขนี้ เมื่อ ผู้ขายส่งมอบของให้ผู้ซื้อ ณ ที่ทำการของผู้ขายแล้ว ผู้ขายจะไม่ต้องรับผิดชอบในการขนสินค้าขึ้นยานพาหนะ ไม่ต้องทำพิธีการ ส่งออก โดยผู้ซื้อจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น การขนของขึ้นยานพาหนะ การผ่านพิธีการขาออก ดังนั้น บริษัท ช จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) จึงได้ส่งสินค้าให้โฮยาเลนซ์อยุธยา โดย H จะเป็นผู้ดำเนินพิธีการนำเข้าสินค้าเข้าเขตอุตสาหกรรมส่งออกเอง

          บริษัทฯ เข้าใจว่า การขายสินค้าให้ H ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในเขตอุตสาหกรรมส่งออก จะได้สิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มใน อัตราร้อยละ 0 เนื่องจาก H มีเอกสารหลักฐานตามข้อ 6 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.97/2543 เรื่อง การส่งออกสินค้า ซึ่ง ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2543 บริษัทฯ จึงได้ออกใบกำกับภาษีเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 แต่ต่อมาบริษัทฯ ทราบว่า H ไม่มีหลักฐานเอกสารดังกล่าว การเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 จึงไม่ถูกต้อง จึงขอทราบว่า กรณี H ซึ่งอยู่ในเขต อุตสาหกรรมส่งออกได้ใช้สิทธิของการเป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในเขตอุตสาหกรรมส่งออกในการดำเนินพิธีการนำเข้าสินค้าโดย ไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ จะต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจาก H ในอัตราร้อยละ 7.0 หรือไม่ หากบริษัทฯ เรียกเก็บภาษี มูลค่าเพิ่มมาในอัตราร้อยละ 0 และได้ยื่นแบบ ภ.พ.30 ไปแล้ว บริษัทฯ จะต้องทำการแก้ไขและเสียเบี้ยปรับ เงินเพิ่ม อย่างไร และบริษัทฯ สามารถร้องขอให้ลดเบี้ยปรับได้หรือไม่ อย่างไร

          2. กรณีบริษัทฯ ซื้อสินค้าจาก บริษัท ม. โดยบริษัท ม. ได้สั่งซื้อสินค้าจาก บริษัท J (ประเทศญี่ปุ่น) และบริษัทฯ ได้ขายสินค้าดังกล่าวให้ บริษัท H2 (จังหวัดปทุมธานี) โดย H2 เป็นผู้ดำเนินพิธีการนำเข้า แต่บริษัทฯ ได้ออกใบกำกับภาษี และเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจาก H2 ในอัตราร้อยละ 7.0 โดยไม่ทราบว่า H2 ได้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าในอัตรา ร้อยละ 7.0 แล้ว ต่อมาได้รับแจ้งจาก H2 ว่า ได้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าแล้ว ดังนั้น การออกใบกำกับภาษีและ การเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายสินค้าให้ H2 จึงเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง บริษัทฯ สามารถออกใบลดหนี้ได้หรือไม่ หรือต้องยื่นแก้ไขแบบแสดงรายการ ภ.พ.30 พร้อมเสียเบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม และบริษัทฯ จะสามารถขอลดเงินเพิ่มได้หรือไม่

แนววินิจฉัย

          1. กรณีตาม 1. บริษัทฯ ขายสินค้าให้ H ไม่เข้าลักษณะเป็นการส่งออกโดยการนำสินค้าในราชอาณาจักรเข้าไปในเขต อุตสาหกรรมส่งออก ตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตามมาตรา 77/1 (14) แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่บริษัทฯ ซื้อมาจากบริษัท ม. ซึ่งได้สั่งซื้อจากผู้ขายในประเทศญี่ปุ่น และได้โอนสิทธิในการนำ เข้าสินค้าดังกล่าวให้แก่ H บริษัทฯ จึงไม่ได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1 แห่งประมวลรัษฎากร และกรณีดังกล่าวเมื่อ H ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในเขตอุตสาหกรรมส่งออก เป็นผู้ยื่นใบขนขาเข้า จึงเป็นการนำสินค้าจาก ต่างประเทศเข้าไปในเขตปลอดอากร ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81 (2) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร ถือได้ว่า H ซึ่งเป็นผู้นำเข้าไม่ได้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มต่อเจ้าพนักงานศุลกากรตามมาตรา 83/8 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่เข้าลักษณะ เป็นค่าตอบแทนที่ไม่ต้องนำมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 (4) แห่งประมวลรัษฎากร และข้อ 2 (9) ของ ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40) เรื่อง กำหนดลักษณะ และเงื่อนไข ค่าตอบแทนที่ไม่ต้องนำ มารวมคำนวณมูลค่าของฐานภาษี ตามมาตรา 79 (4) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2535 เมื่อบริษัทฯ เรียกเก็บเงินค่าสินค้าจากโฮยาเลนซ์อยุธยา บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีในทันทีที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เกิดขึ้น โดยเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7.0 ตามมาตรา 78 (1) และมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร และ H มีสิทธินำภาษีซื้อดังกล่าวไปหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร

          กรณีบริษัทฯ ได้เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายสินค้าดังกล่าวในอัตราร้อยละ 0 และยื่นแบบแสดงรายการ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ.30) โดยแสดงยอดขายในอัตราร้อยละ 0 ไปแล้ว บริษัทฯ จะต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 เพิ่มเติมเพื่อทำ การปรับปรุงรายการให้ถูกต้องต่อไป และมีสิทธิร้องของดหรือลดเบี้ยปรับได้ตามระเบียบกรมสรรพากร

          2. กรณีตาม 2. เมื่อบริษัทฯ ได้ขายสินค้าให้ H2 และได้โอนสินค้าให้ H2 ยื่นใบขนขาเข้าต่อเจ้าพนักงานศุลกากร ณ ด่านศุลกากร เพื่อชำระภาษีมูลค่าเพิ่มต่อเจ้าพนักงานศุลกากร ตามมาตรา 83/8 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว บริษัทฯ ไม่ต้องนำมูลค่าของสินค้าที่ขายมารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 79(4) แห่งประมวล รัษฎากร และข้อ 2(9) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 40)ฯ ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2535 บริษัทฯ จึงไม่ต้องออกใบกำกับภาษีเพื่อเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจาก H2 เมื่อความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตาม มาตรา 78 (1) แห่งประมวลรัษฎากร แต่บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องออกใบรับตามมาตรา 105 แห่งประมวลรัษฎากร หรือใบส่งของ ตามมาตรา 105 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร แล้วแต่กรณี