กค 0702/10407
21 ธันวาคม 2552
มาตรา 65 ตรี (3) และ (13) และมาตรา 42(13) แห่งประมวลรัษฎากร
-
บริษัทฯ ประกอบกิจการให้คำปรึกษาทางการเงินแก่บริษัทอื่นๆ ได้เสนอโครงการประกันชีวิตแก่บริษัทลูกค้า ซึ่งโครงการประกันชีวิตดังกล่าว บริษัทนายจ้างจะต้องทำประกันชีวิตให้กับพนักงานทุกคนเป็นการทั่วไป และบริษัทนายจ้าง ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิตแทนพนักงานทุกคนจนครบกำหนดอายุกรมธรรม์ และถือเป็นสวัสดิการของพนักงาน กรมธรรม์ ประกันชีวิตดังกล่าว เป็นแบบชนิดสะสมทรัพย์ซึ่งบริษัทนายจ้างเป็นผู้ถือกรมธรรม์ และมีระยะเวลาชำระเบี้ยประกันและ ระยะเวลาให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ 21 ปีโดยพนักงานเป็นผู้เอาประกันภัยและเป็นผู้รับประโยชน์เมื่ออายุกรมธรรม์ ครบสัญญาหรือมีอายุครบเกษียณ หรือทายาทของพนักงานเป็นผู้รับประโยชน์กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต ทั้งนี้ตามระเบียบ สวัสดิการของบริษัทนายจ้าง
บริษัทฯ จึงขอทราบว่า
1. เงินค่าเบี้ยประกันชีวิตของพนักงานที่บริษัทนายจ้างจ่ายแทนพนักงานทุกคน บริษัทนายจ้างมีสิทธินำมาเป็นรายจ่าย ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้หรือไม่ ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (3) และ (13) แห่งประมวลรัษฎากรหรือไม่
2. เงินค่าเบี้ยประกันชีวิตของพนักงานที่บริษัทนายจ้างจ่ายแทนพนักงานทุกคนนั้น พนักงานต้องนำมารวมคำนวณเป็นเงินได้ เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่
3. ผลประโยชน์ที่พนักงานผู้เอาประกันหรือทายาทได้รับตามกรมธรรม์แล้วแต่กรณีพนักงานผู้เอาประกันภัยหรือทายาท ต้องนำมารวมคำนวณเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่
72/37063