กค 0706/2590
27 มีนาคม 2549
มาตรา 77/2 มาตรา 82/6 และมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร
69/34018
1. บริษัทฯ ประกอบกิจการ
(1) ซื้อสินค้าในประเทศและขายในประเทศ
(2) ซื้อสินค้าในประเทศและส่งออกนอกประเทศ
(3) นำเข้าสินค้าจากประเทศอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สวีเดน เป็นต้น เพื่อที่จะนำมา
ขายในประเทศ
(4) นำเข้าสินค้าเข้ามาในประเทศโดยผ่านพิธีการศุลกากร และส่งออกนอกราชอาณาจักร
(5) ซื้อขายสินค้านอกราชอาณาจักร เช่น ซื้อสินค้าจากประเทศอินโดนีเซีย ขายตรงไป
ที่ประเทศอินเดียโดยไม่ผ่านประเทศไทย
บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายที่ใช้ร่วมกันสำหรับกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และกิจการ
ประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่ ค่าโทรศัพท์ต่างประเทศ ค่าจัดส่งเอกสาร หรือสินค้า
ตัวอย่างทางไปรษณีย์ การรับบริการดังกล่าว บริษัทฯ ไม่สามารถแยกได้อย่างชัดเจนว่า ภาษีซื้อ
ของค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นภาษีซื้อของกิจการประเภทใด บริษัทฯ จึงเฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของ
รายได้ของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
ในอัตรา รายได้ที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7.0 รวมกับรายได้ที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ
0 หารด้วยรายได้รวมทั้งหมด ซึ่งรายได้รวมทั้งหมดประกอบด้วยรายได้ขายในประเทศ รายได้
ส่งออกต่างประเทศ และรายได้จากการขายสินค้านอกราชอาณาจักร ถูกต้องหรือไม่
1. กรณีตาม 1 การกระทำกิจการของบริษัทฯ ตาม (1) และ (2) เป็นการขายสินค้า
โดยผู้ประกอบการและตาม (3) และ (4) เป็นการนำเข้าสินค้าโดยผู้นำเข้าซึ่งอยู่ในบังคับต้อง
เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร ส่วนการกระทำกิจการตาม (5)
เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้านอกราชอาณาจักร ไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตาม
มาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น บริษัทฯ จึงเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนมีรายได้
จากการประกอบกิจการทั้งประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษี
มูลค่าเพิ่ม หากบริษัทฯ มีภาษีซื้อที่เกิดขึ้นจากการซื้อสินค้าหรือรับบริการเพื่อใช้หรือจะใช้ใน
กิจการทั้งสองประเภทโดยไม่สามารถแยกได้อย่างชัดแจ้งว่า เป็นภาษีซื้อของกิจการประเภทใด
และมีรายได้ของปีที่ผ่านมาแล้ว บริษัทฯ ต้องเฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ของปีที่ผ่านมา
ตามข้อ 2(3) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9
มีนาคม พ.ศ. 2535
2.กรณีตาม 2 บริษัทฯ ได้มีการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่เพื่อใช้ในการประกอบ
กิจการทั้งประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัทฯ
ต้องเฉลี่ยภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างอาคารตามส่วนของประมาณการการใช้พื้นที่อาคาร
ตามมาตรา 82/6 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 5 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535 และหากบริษัทฯ ไม่
สามารถแบ่งแยกการใช้พื้นที่อาคารว่า อาคารส่วนใดใช้ในกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
และอาคารส่วนใดใช้ในกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถ
เฉลี่ยภาษีซื้อตามประมาณการการใช้พื้นที่อาคาร ตามข้อ 5 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
ฉบับดังกล่าวได้ จึงเห็นควรให้บริษัทฯ เฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ของปีที่ผ่านมาของ
แต่ละกิจการ และให้นำภาษีซื้อส่วนที่เฉลี่ยได้ตามส่วนของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษี
มูลค่าเพิ่มไปหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวล
รัษฎากร โดยเมื่อสิ้นปีบริษัทฯ ไม่ต้องปรับปรุงภาษีซื้ออีก เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทฯ ประสงค์จะ
ปรับปรุงภาษีซื้อให้เป็นไปตามส่วนรายได้ที่เกิดขึ้นจริงทั้งปีของกิจการทั้งสองประเภทก็ให้
กระทำได้ ทั้งนี้ ตามข้อ 2 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ
ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535